 |
ท่องเที่ยว บทความพิเศษ
สมัครงาน เศรษฐกิจ-ธุรกิจ การตลาด การลงทุน |
|
ท่องเที่ยว บทความพิเศษ
สมัครงาน เศรษฐกิจ-ธุรกิจ การตลาด การลงทุน |
URL: www.phukettoday.com/news |
ฉบับที่ 625 ประจำเดือน สิงหาคม 2543 |
 |
|
|
อ่าวกะตะโหด
กลืนสองชีวิตญี่ปุ่นวัยดึก นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นวัยดึก อวดดีรั้นไม้สนธงแดง สัญญลักษณ์อันตราย เลยชะตาขาดตกเป็นเหยื่อทะเลอันดามัน อ่าวกะตะที่กำลังโหด หน้าโลว์ซีซั่น สองศพรวด บีชการ์ดหมดปัญญาช่วย เมื่อเร็วๆ นี้ ร.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งให้ไปชันสูตรพลิกศพชาวต่างประเทศจากพนักงานโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตถนนเยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เนื่องจากว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจำนวน 2 ราย ที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำทะเลที่บริเวณหาดกะตะ หมู่ที่ 4 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ทั้งนี้ร้อยเวรสอบสวนและคณะร่วมกับแพทย์เวรได้ชันสูตรพลิกศพที่ห้องไอซียูชั้น 2 โดยมีบรรดาญาติและเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวรายแรกชื่อ นายไมยา ฮาจินี อายุ 54 ปี เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ชายหากกะตะ ส่วนนายโยชิโนริ โกโตดา อายุ 51 ปี ทางโรงพยาบาลแจ้งเพิ่มเติมว่าเสียชีวิตที่โณงพยาบาล เนื่องจากผู้เคราะห์ร้ายจมน้ำเป็นเวลานาน แม้ว่าจะจัดรถฉุกเฉินไปรับตัวมารักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิดก็ตาม แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ นอกจากนี้จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์และพนักงานโรงแรมเพิ่มเติมพบว่า นายโยชิโนริ โกโตดาเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตพร้อมกับครอบครัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและเข้าพักที่โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งในบริเวณหาดกะตะ ก่อนเกิดเหตุได้ลงเล่นน้ำทะเล และปรากฏว่าได้มีคลื่นขนาดใหญ่โถมเข้าใส่ร่างจนจมหายไปต่อหน้าต่อตานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่พักผ่อนอยู่ที่เตียงผ้าใบชายหาด จำนวนมาก แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดูแลชายหาดกะตะจะได้ลงไปช่วย แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทันเวลาและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน นายไมยา ฮาจินี ได้ลงเล่นน้ำใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุอีกคนหนึ่ง และคลื่นขนาดใหญ่ได้กวาดร่างจมหายไปเช่นเดียวกันและมีการค้นหาผู้เคราะห์ร้ายเป็นเวลานาน จนศพถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดในเวลาต่อมา ข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 2,000,000 บาท เพื่อจัดตั้งอาสาสมัคร Beachguard ขึ้นที่หากกะรน 2 ชุด หาดกะตะ 1 ชุด รวมทั้งหากป่าตองอีก 2 ชุด โดยแต่ละแห่งจะเริ่มดำเนินการในเวลาประมาณ 09.00-19.00 น. ทุกวัน จนกระทั่งถึงประมาณเดือนพฤศจิกายนมีผู้ปฏิบัติงาน 3 คน พร้อมเจ็ตสกี เสื้อชูชีพ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลและกล้องส่องทางไกล ที่จะมีผู้ผลัดเปลี่ยนขึ้นไปสังเกตการณ์บนหอคอยชายหาด เพื่อระวังเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาปรากฏว่ามีทั้งชาวไทยจากต่างจังหวัดและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลงเล่นน้ำทะเลโดยไม่ระมัดระวังคำตักเตือนของเจ้าหน้าที่ พนักงานโรงแรมตลอดจนตำรวจน้ำและตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้งไม่สนใจธงสีแดง สัญญลักษณ์ห้ามลงเล่นน้ำหรืออ่านประกาศเตือนอันตรายจากการลงเล่นน้ำในหน้ามรสุม คลื่นลมแรง เป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 30 กว่ารายเป็นประจำทุกปี
|
