|
|
|
ล้มฝ่ายบริหาร
อบต.รัษฎา
เลือกใหม่ถึงขั้นวางมวย
ประชุมสภา อบต.รัษฎา สมัยที่ 3
อลเวง
เอกสารใบปลิวโจมตีฝ่ายบริหารทุจริตเกลื่อนสภา
ยึกยักเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ผลสุดท้ายฝ่ายบริหารทั้งคณะถูกลงมติไม่ไว้วางใจ
เลือกตั้งฝ่ายบริหารชุดใหม่
ซื้อตำแหน่งกันไม่ลงตัว
ถึงขึ้นวางมวยชุลมุนกันทั้ง อบต.ต้องขอกำลังตำรวจรักษาความสงบ
เมื่อเร็วๆนี้
ทางองค์การบริหารส่วนตำบลรัษฎา
ได้เปิดการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลรัษฎา
สมัยที่ 3 ขึ้น โดยมีนายอัมพร
อภิชาตตระกูล ประธานสภาฯ
และบรรดาสมาชิกฝ่ายบริหารและฝ่ายค้านเข้าประชุมครบองค์ประชุม
ซึ่งในการประชุมสภาฯ ในครั้งนี้
ได้กำหนดระเบียบวาระในการประชุม
7 วาระด้วยกัน
นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่สนใจทางการเมือง
และคอยติดตามการพัฒนาในพื้นที่ได้เข้าร่วมฟังการประชุมสภาฯ
ในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าว "หนังสือพิมพ์ข่าวเศรษฐกิจ"
รายงานว่า
ระเบียบในการประชุมสภาบริหารส่วนตำบลรัษฎา
ยังพูดถึงปัญหาหลักๆ
ของตำบลรัษฎาในขณะนี้ คือ
ปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำกับปัญหาการว่างงานของประชาชน
รวมไปถึงการขาดจิตสำนึกในการยอมรับปัญหาต่างๆ
อย่างไรก็ตามระเบียบวาระในการประชุม
ที่ได้ปลด นายหัสรณ
อาวัชนาการกุล
ประธานกรรมการบริหาร อบต.รัษฎา
หลุดพ้นจากตำแหน่ง ก็คือ
วาระการอนุมัติรายจ่ายเพิ่มเติมครั้งที่
1 ประจำปี 2543
ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมที่ได้มาจากงบประมาณสนับสนุนของรัฐบาล
อบต.รัษฎา เป็นเงินทั้งสิ้น 340,900
บาท
ซึ่งทางรัฐบาลได้ส่งมอบเงินแยกเป็น
2 งวด
ในเรื่องของการอนุมัติรายจ่ายเพิ่มเติมครั้งที่
1
ซึ่งได้สนับสนุนจากทางรัฐบาลนั้น
นานหัสรณ ประธานกรรมากรบริหาร
อบต.รัษฎา ชี้แจงว่า
งบอุดหนุนจากรัฐบาลมีแผนงานที่จะดำเนินการแบ่งออก
2 ส่วน คือส่วนแรก
โครงการถนนสวยงาม
ซึ่งจะปลูกต้นไม่กลางถนนหมู่บ้านซิตี้โฮม
ใช้งบฯ ไม่น้อยกว่า 20 %
สำหรับการเสนอแผนพัฒนาของประธานกรรมการบริหาร
อบต.รัษฎา ในครั้งนี้
ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างลานจอดรถของ
อบต.รัษฎา โดยระบุว่า
การสร้างลานจอดรถ
ไม่ใช่เป็นปัญหาเร่งด่วน
แต่ในขณะนี้บรรดาชาวบ้านรัษฎามีความเดือดร้อนในเรื่องการใช้ถนน
ที่หลายหมู่บ้านใช้ถนนไม่สะดวก
รวมไปถึงหลายหมู่บ้านของตำบลรัษฎาไม่มีไฟฟ้าใช้
ควรจะนำเงินก้อนนี้มาพัฒนาพื้นที่มากกว่าที่จะไปสร้างลานจอดรถ
มองแล้วรู้สึกจะใจแคบเกินไป
หากนำเงินก้อนดังกล่าวนี้ไปละลาย
ขณะที่ประธานกรรมการบริหาร
กลับระบุว่า
ก่อนที่จะนำงบก้อนนี้ไปพัฒนาเรื่องต่างๆ
นั้นก็ย่อมถูกต้อง
แต่มีเสียงของบรรดาชาวบ้าน
ได้บอกว่าก่อนที่จะพัฒนาพื้นที่อื่นๆ
ควรจะปรับปรุงและพัฒนาที่ทำการ
อบต.รัษฎา ให้ดูดีก่อน
ไม่คิดเป็นอย่างอื่นเลย
และวาระการอนุมัติรายจ่ายเพิ่มเติมครั้งที่
1 ประจำปี 2543 ปรากฏว่าบรรดาสมาชิก
อบต.รัษฎา รวมถึงฝ่ายบริหาร
ไม่เห็นด้วยการบริหารของประธานกรรมการบริหาร
อบต.รัษฎา
จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายหัสรณ
ประธานกรรมการบริหารพร้อมคณะบริหาร
หลุดพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หลังจากนั้น นายอัมพร
อภิชาตตระกูล
ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลรัษฎา
เปิดเผย กับผู้สื่อข่าว
ถึงการนำเอกสารต่างๆ
ที่ระบุถึงการทุจริตของฝ่ายบริหาร
อบต.รัษฎา
ว่าการแจกเอกสารในครั้งนี้
ถือว่าไม่ได้รับการอนุญาตจากตนจึงไม่ฟังการชี้แจงรายละเอียดของเอกสาร
ขณะเดียวกันตนก็เป็นกลางเพียงพอ
ไม่ได้เข้าข่ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แต่ต้องทำไปตามข้อบังคับการประชุม
"แต่การประชุมสภาฯ
ครั้งนี้รู้ว่าต้องมีปัญหาแน่นอน
แต่ก็ต้องทำเพื่อประชาชนตำบลรัษฎา
ส่วนใครจะเข้ามานั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหารคนใหม่นั้นก็แล้วแต่ความสามารถ
ความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้แล้วคิดว่าควรจะบริหาร
อบต.รัษฎา ให้ดีกว่านี้
อย่างไรก็ดีก็ต้องยอมรับด้วยว่าความขัดแย้งที่เกิดในการประชุมสภาฯ
ถือว่าแนวความคิดเห็นไม่ตรงกันมากกว่า
เป็นเรื่องธรรมดา
ทุกอย่างน่าจะเคลียร์กันได้ "
ประธานสภาฯ กล่าวและว่า
การประชุมสภาฯ
ครั้งนี้ไม่คิดมาก่อนว่าจะปลดประธานกรรมการบริหารออกจากตำแหน่ง
ทางด้านนายหัสรณ
อดีตประธานกรรมการบริหาร อบต.รัษฎา
กล่าวภายหลังพ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารฯ
ว่า การที่ทางประชาชน
เลือกตนมาทำงานบริหารตำบลรัษฎา
แน่นอนสิ่งสำคัญต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนมากที่สุด
แต่ไม่ใช่การทำงานจะง่ายเหมือนกับทุกคนคิด
มีทั้งส่วนไม่ดีและดี
อย่างเช่นการแจกเอกสารในที่ประชุมสภาฯ
ถึงการทุจริตเงินของการจัดซื้อสิ่งต่างๆ
ที่ไม่ถูกต้อง
"เรื่องของการโกงกินใน อบต.รัษฎา
ผมก็ได้ข่าวจากชาวบ้าน
และผู้รับเหมามาประกอบธุรกิจก็มีการร้องเรียนตลอดเวลา
เรื่องของการไม่ชอบมาพากลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองที่เข้ามามีบทบาทและดูแล
ส่วนที่ผมได้มอบหมายเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
มีการดูแลจนเลยเถิดเกินไป
หากเข้ามาทำหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง
ก็จะทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของ
อบต.รัษฎา ให้ดีที่สุด"
ประธานกรรมการบริหารส่วนตำบลรัษฎา
กล่าวเสริม
ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 16 ส.ค. 43 นี้
ได้มีการเรียกประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
(อบต.) รัษฎา
เพื่อทำการเลือกตั้งประธานและกรรมการบริหารชุดใหม่
หลังจากที่ชุดเก่าทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง
เพราะที่ประชุมลงมติไม่ไว้วางใจให้บริหารงานต่อไป
ด้วยข้อกลาวหาทุจริตต่อหน้าที่ดังกล่าว
ผลปรากฎว่า นายออมสิน
อภิชาติตระกูล
ได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานกรรมการบริหาร
ส่วนกรรมการอีก 2 คน คือ นายสุภร
รักษาราษฎร์ กับนายบุญส่ง
เหล็กเพชร
จะอย่างไรก็ตามปรากฎว่าการประชุมเลือกกรรกมารบริหารชุดใหม่ครั้งนี้
มีรายงานข่าวแจ้งว่ามีการล็อบบี้
และเสนอเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อตำแหน่ง
และมีการทะเลาะชกต่อยกันภายหลังการประชุมเสร็จ
ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบร่วมสิบคน
|