|
|
|
เตือนภัยหญิงเที่ยวแหล่งบันเทิง
มารสังคมใช้ยารนอนหลับล่าเหยื่อ
สาธารณสุขเตือน ภัยหญิง ระวังมาร
สังคม กำลังเหิมเกริม ตระเวณ
ล่าเหยื่อตาม สถานบันเทิง
เข้าตีสนิทแล้วแอบใส่ย่นอนหลับชนิดรุนแรงในเครื่อง
ดื่ม 5 นาที หลับผลอย
ร้านยาขายกันเกร่อ
ว่าเป็นยาแก้เครียดนอนไม่หลับ
ส่วนคณะอนุ กรรมการ ปปส.จี้เภสัชเข้มงวดการขายยาแก้ไอ
ให้กับวัยรุ่น
พร้อมเผยสถิติการจับกุมเกินร้อย
รายทุกเดือน
นายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์
นายแพทย์
สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต
เปิดเผยว่าด้วยปรากฎ
ข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชนว่า
ขณะนี้มีกลุ่ม
มิจฉาชีพออกตระเวนใช้ยานอนหลับชนิดรุนแรง
ทำร้ายเหยื่อ
เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์สินเฉพาะ
สุภาพสตรีที่เป็นเหยื่ออาจจะได้รับอันตรายมาก
กว่าการสูญเสียทรัพย์สินได้
พฤติการณ์ของเหล่ามิจฉาชีพมักหาโอกาสเข้า
ทำความรู้จัก
เพื่อสร้างความสนิทสนมกับเหยื่อ
โดยเฉพาะตามสถานบันเทิงต่างๆ
ที่มีผู้เข้าไปใช้
บริการเป็นจำนวนมาก
จากนั้นจะเอาน้ำหรือ
เครื่องดื่มให้ดื่ม
ซึ่งในนั้นจะผสมยานอนหลับ
ชนิดรุนแรง ที่มีชื่อว่า DOMIGUM
ยาชนิดนี้จะ
ออกฤทธิ์รุนแรงและรวดเร็วมากภายใน
5-15 นาที
ผู้ที่รับประทานยานี้เข้าไปจะนอนหลับหมด
สติไปกว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่า
2 ชั่วโมง
ปกติยาชนิดนี้จะใช้สำหรับผู้ที่มีความเครียด
นอนไม่หลับ
และต้องได้รับการแนะนำจาก แพทย์
แม้ว่าจะไม่ใช่ยาเสพติดแต่เป็นยาที่มีอัน
ตรายทางกระทรวงสาธารณสุข
อนุญาตให้ได้
เฉพาะตามใบสั่งของแพทย์เท่านั้น
ก็ปรากฎว่า
ยังมีผู้ลักลอบจำหน่ายกันอยู่
ซึ่งผู้รับประทาน
ยานี้จะไม่มีความผิดแต่ผู้จำหน่ายมีความผิด
กฎหมาย
ส่วนทางด้านยาเสพติดนั้นจังหวัดภูเก็ตจะเสนอ
หมู่บ้านต่างๆ ที่ไม่มีการผลิต
การเสพและการ
ค้ายาเสพติดให้เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด
เฉลิมพระเกียรติตามนโยบายของรัฐบาล
เพื่อให้ กรรมการมาตรวจสอบ
เพราะปัจจุบันมีพื้นที่
ครอบคลุมเพียงร้อยละ 10.6 เท่านั้น
ส่วนโครง
การบ้านปลอดยาเสพติดในอำเภอเมืองภูเก็ตมี
161 หลัง อำเภอกะทู้ 126 หลัง และอำเภอ
ถลางกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
สำหรับการจับกุมคดียาเสพติดในเดือนกรกฎา
คมได้ผู้ต้องหา 126 ราย
เดือนสิงหาคมผู้ต้องหา 121 ราย
มีทั้งเฮโอีน กัญชา กระท่อม สารระ
เหยและยาบ้า
มีผู้สมัครใจเลิกยาเสพติดจำนวน 20
ราย
ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยเก่าถึง 8
ราย
นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบเกี่ยวกับความระ
บาดในสถานบริการเริงรมย์ของยาแก้ไอชนิด
หนึ่ง
ที่มีตัวยาที่เป็นสารเสพติดรวมอยู่ด้วยและ
บรรดากลุ่มวัยรุ่นนิยมนำไปผสมกับเครื่องดื่มที่
มีคาเฟอีน
เมื่อดื่มเข้าไปมีอาการมึนเมาเหมือน
เครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์
ในเรื่องนี้นายอำนวย สงวนนาม
รองผู้ว่า ราชการจังหวัดภูเก็ต
กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่
ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้อง
เข้าไปกวดขันสถานบริการเพิ่มมากขึ้น
รวมไปถึง
ขอความร่วมมือให้เภสัชกรที่อยู่ประจำร้านขายยา
ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่จำหน่ายยาแก้ไอหรือยา
เม็ดดังกล่าวให้กับกลุ่มวัยรุ่น
|