|
|
|
ส่วยรถตู้ป้ายดำออกฤทธิ์
ผู้การเต้น-ขนส่งตื่น
ผู้การตำรวจภูธรโดนส่วยรถตู้ป้ายดำเหยียบตาปลา
เล่นปาหี่จี้สามพื้นที่เจ้าปัญหา
สอบหาตำรวจนอกแถว
ถือเตารีดมาจัดการอย่างเด็ดขาด
ส่วนขนส่งแจงพึ่งมาใหม่ไม่ทราบมีเจ้าหน้าที่ประพฤตินอกลู่นอกรอย
แจงโทษ พรบ.ขนส่ง
เอารถตู้ป้ายดำมารับจ้าง ติดคุก 5
ปี ปรับแสนบาท
จากกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสามพื้นที่
ตั้งด่านและดักจับรถตู้ป้ายดำที่ออกมาประกอบการขนส่งในจังหวัดภูเก็ต
โดยทำการรีดไถทรัพย์จากผู้ขับขี่ทั้งเป็นรายวัน
และรายเดือน
ดังทีได้เสนอข่าวไปเมื่อฉบับที่แล้วนั้น
โดยเฉพาะสี่แยกไฟแดงถลาง
สี่แยกทุ่งทองขึ้นป่าตอง
และวงเวียนห้าแยกฉลอง
รวมทั้งที่จุดตรวจท่าฉัตรไชย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.คงพล
สุวรรณรักษ์
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
กล่าวถึง
กรณีรถตู้ป้ายดำภูเก็ตถูกเก็บส่วยจากตำรวจทุกพื้นที่ว่าเรื่องนี้ทาง
พล.ต.ท.สมศักดิ์ สายบัว
ผู้บังคับการตำรวจภูธร ภาค 8
ได้มีคำสั่งเกี่ยวกับการรีดไถตามเส้นทางต่างๆ
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเมื่อข่าวเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตอย่างนี้
ตนสั่งการไปยัง ผกก.และสารวัตร
ทั้ง 3 พื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต
ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงมายังกองบังคับการฯ
ด่วน
และตนเองได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่งด้วย
หากพบหลักฐานหรือมีพยานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใดมีส่วนได้กับการเก็บส่วยรถตู้ป้ายดำก็จะดำเนินการตามระเบียบของกฎหมายทันที
และจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำตัวรีดไถอย่างเด็ดขาด
ทางด้าน นายอุทัย ศรีวิลัย
หัวหน้าขนส่งจังหวัดภูเก็ต
กล่าวว่า
ตนได้เดินทางมารับตำแหน่งขนส่งจังหวัดภูเก็ต
ไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดที่มีความประพฤตินอกลู่นอกรอย
หากินบนความทุกข์ของชาวบ้านที่เขานำรถมาจดทะเบียนแล้วเรียกร้องเงินตราโปรดจดชื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นและมาพบตนได้ทุกเวลาทั้งในเวลาราชการหรือนอกเวลาราชการ
จะได้มีพยานหลักฐานเอาโทษกับเจ้าหน้าที่ทันที
ถึงขั้นให้ออกจากราชการไปเลย
ตนเน้นหนักในเรื่องของความถูกต้องสุจริตยุติธรรมต่อหน้าที่
หากเจ้าหน้าที่ในขนส่งจังหวัดคนใดไม่ทำตามนโยบายของตน
คงจะเลี้ยงเป็นลูกน้องไม่ได้
ลูกน้องไม่ดีขืนปล่อยให้อยู่ในสำนักงานเดียวกันก็ทำให้งานราชการเสียหายไปด้วย
จึงขอความร่วมมือถึงพี่น้องประชาชนเพื่อจะได้ขจัดเจ้าหน้าที่เลวๆ
ต่อไป และหากมีบุคคลแอบอ้าง
ถ้าจอดเทียบรถต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ
โปรดแจ้งจับได้ทันที
เพราะตนไม่มีนโยบายที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว
มีแต่บริการประชาชนให้รวดเร็วฉับไวเท่านั้น
ส่วนรถตู้ป้ายดำที่วิ่งรับแขกนักท่องเที่ยวตามสนามบินหรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ในจังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นการกระทำที่ผิด
พรบ.ขนส่ง คือ
นำรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 คน
แต่ไม่เกิน 12 คน
หรือรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักไม่เกิน
1,600 กิโลกรัม
ไปประกอบการขนส่งเพื่อรับจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วนการขนส่งทางบก
ซึ่งการกระทำดังกล่าว
เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก
พ.ศ.2522
ฐานประกอบการขนส่งโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 1
แสนบาท หรือทั้งปรับทั้งจำ
และเป็นความผิดพระราชบัญญัติรถยนต์
พ.ศ.2522
ฐานใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 พันบาท
และหากเจ้าของรถรายใดที่ขอเปลี่ยนป้ายดำเป็นป้ายเหลืองนั้น
จะเสียค่าประกอบการ 1,500 บาท ต่อ 5 ปี
ค่าภาษีรถ
คิดตามน้ำหนักของรถแต่ละคัน
ถ้าเป็นรถตู้น้ำหนักประมาณ 1,750 กก.
ค่าภาษี 1,350 บาท
ค่าแผ่นป้ายทะเบียนหน้าหลัง 200
บาท ค่าสมุดคู่มือ 100 บาท
ผู้ประกอบการคนใดมายื่นขอทางขนส่งจะเริ่มดำเนินการทันที
ส่วนเรื่องที่ล่าช้า
ส่วนมากจะอยู่ที่ทางกรมขนส่ง
และถ้ามีเจ้าหน้าที่คนใดเรียกร้องค่าบริการอย่ายินยอมอย่างเด็ดขาด
และรีบพบขนส่งจังหวัดทันที
และขณะนี้ปรากฏว่า
รถของผู้ประกอบการที่เป็นป้ายดำ
เช่น รถตู้, ตุ๊กตุ๊ก
และรถบัสมาเปลี่ยนเป็นป้ายเหลืองมีจำนวน
2,107 คันแล้ว" นายอุทัย กล่าว
|