headnews.gif (3376 bytes) ท่องเที่ยว  บทความพิเศษ   สมัครงาน
เศรษฐกิจ-ธุรกิจ การตลาด   การลงทุน

    URL: www.phukettoday.com/news

ฉบับที่ 632 ประจำเดือน 18-24 กันยายน 2543          
dot.gif (802 bytes)
สารบัญ
ข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจ
ข่าวท่องเที่ยว
ข่าวสังคม
สมัครงาน
สกู๊ปประจำฉบับ
กลับ Phuket Today
 

ป่าไม้อัดไกด์ร้องลั่น ด้วยค่าธรรมเนียมอุทยานใหม่
ผู้ประกอบการนำเที่ยว จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ เรียกร้องให้กรมป่าไม้พิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ด้วยความเป็นธรรมและไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา กลัวเงินค่าธรรมเนียมรั่วไหล เตรียมระดมพลประชุมหารือเสนอเรื่องแก้ไขเร่งด่วน
หลังจากที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ลงนามในประกาศกรมป่าไม้ เรื่องกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน พุทธศักราช 2543 และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการนำเที่ยวทางทะเลที่อยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พังงา และ จ.กระบี่บางส่วน ที่นำนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศไปเที่ยวที่เขาพิงกัน อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาและพื้นที่ใกล้เคียว เพราะประกาศดังกล่าวนี้กระทบกระเทือนต่อแผนการตลาดของบริษัทต่างๆ ทั้งหมด เพราะมีการจองรายการนำเที่ยวล่วงหน้ามานานประมาณ 1 ปี หรือนานกว่านั้นแล้ว ดังนั้นการชำระค่าธรรมเนียมจึงตกเป็นภาระของผู้ประกอบการโดยปริยาย
สำหรับประกาศของกรมป่าไม้ฉบับนี้ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับบุคคลชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่คนละ 200 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี 100 บาท และเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ส่วนคนไทยยังคงจัดเก็บคนละ 20 บาทเท่าเดิม โดยประกาศนี้ให้ใช้เพิ่มเติมกับประกาศกรมป่าไม้ทั้งปวง ที่ได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติแล้ว และเป็นอุทยานแห่งชาติในสังกัดส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ทั้งนี้ผู้ประกอบการนำเที่ยวเชิงอนุรักษ์จากบริษัทแนวหน้ารายหนึ่ง ระบุว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมจำนวน 200 บาท จะมีประสิทธิภาพและไม่รั่วไหล หากมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเป็นช่วงเวลาพอสมควร จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใดและจำนวนเงินดังกล่าว ถ้าทางราชการจะนำไปใช้ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ คือ เพื่อนำไปว่าจ้างบุคลากรในด้านการจัดการอนุรักษ์และฟื้นฟูรักษาความสะอาด จัดเก็บขยะมูลฝอย ในลักษณะดังกล่าวนี้ผู้ประกอบการทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ แต่เท่าที่ผ่านมาแค่มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับนักท่องเที่ยวรายละ 20 บาท เมื่อพิจารณาจากบัตรต้นขั้ว 3 ส่วน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะฉีกให้บริษัทนำเที่ยวเพียง 1 ส่วน แต่กลับเก็บไว้ถึง 2 ส่วนทีเดียว
จากสถิติพบว่านักท่องเที่ยวประมาณ 3 ล้านคน ที่มาเยือนภูเก็ตในจำนวนนี้มีสูงถึงประมาณร้อยละ 60 ไปเยือนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ดังนั้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเพียง 20 บาท เป็นเวลานาน 1 ปี จะเป็นปริมาณเงินจำนวนสูงและถ้าเป็น 200 บาท รายได้การจัดเก็บจะทวีคูณ ในเรื่องนี้ทางกรมป่าไม้ต้องออกมาชี้แจงให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึง ว่าความชัดเจนในการจัดเก็บในอดีตจนถึงปัจจุบัน สามารถแสดงรายรับหรือการนำเงินดังกล่าวนำไปพัฒนา ปรับปรุงหรือฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติมากน้อยเพียงใดด้วย
ข่าวแจ้งด้วยว่า กลุ่มผู้ประกอบการนำเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใน จ.ภูเก็ต พังงา และ จ.กระบี่ มีกำหนดการจัดประชุมเร็วๆ นี้ เพื่อหารือในกรณีประกาศกรมป่าไม้ เรื่องกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด เนื่องจากในเดือนตุลาคมต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปีและขึ้นปีใหม่ เป็นช่วงการท่องเที่ยวหนาแน่น การแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่สกัดกั้นบรรยากาศของการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องให้เรียบร้อย
10.เทศกาลเปิดฤดูท่องเที่ยว ให้โชว์ของดี!
จังหวัดภูเก็ตจัดงานเทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว ให้ทุกหน่วยงานเอาของดีมาอวด เพื่อความภาคภูมิใจ พร้อมจัดกิจกรรมทั้งกลางวันกลางคืน ทั้งกีฬาและบันเทิง
เมื่อตอนค่ำวันที่ 12 ก.ย.43 ที่โรงแรมบ้านสุโขทัย หาดป่าตอง ได้มีการแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลเปิดฤดูการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ณ หาดป่าตอง ครั้งที่ 15 โดยมี นายอำนวย สงวนนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมศักดิ์ แสนยานุภาพ นายอำเภอกะทู้ นายอานุภาพ ธีรรัฐ ผอ.ททท.ภาคใต้เขต 4 นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีตำบลป่าตอง และนายบันลือ ตันติวิท ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวหาดป่าตองร่วมแถลงข่าว
วัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด เพื่อให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมอย่างเป็นเอกภาพ และเพื่อเป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์ที่ดีงามของจังหวัดภูเก็ต และเป็นการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว
เป้าหมายการจัดงานก็เพื่อให้เป็นการจัดงานเทศกาลที่มีความสนุกสนาน พร้อมขบวนแห่ของดีเมืองภูเก็ตและมีกิจกรรมการแสดงต่างๆ หลากหลายรูปแบบ โดยมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมกำหนดการจัดกิจกรรม เพื่อก่อให้เกิดความภาคภูมิใจและมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณการจัดงานจากเทศบาลตำบลป่าตอง และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
กำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2543 ที่บริเวณชายหาดป่าตอง มีกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย การทำบุญตักบาตร กิจกรรมรณรงค์รักษาความสะอาดหาดป่าตอง การแข่งขันดำน้ำเก็บขยะ การแข่งขันกีฬาทางน้ำ สาธิตการแสดงร่มร่อน แข่งขันวิ่งเฮฮามินิมาราธอน แข่งขันการละเล่นพื้นบ้าน ขบวนแห่ของดีเมืองภูเก็ต โดยมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการเวลา 17.00 น. ส่วนภาคกลางคืนมีการแสดงบนเวที การแข่งขันชกมวยไทย และการประกวดธิดานานาชาติ นอกจากนั้นยังมีการแสดงการแกะสลักน้ำแข็ง แสดงการผสมเครื่องดื่มประกอบลีลา ประกวดแฟนตาซีบาร์เบียร์ และการประกวดธิดาบาร์เบียร์ ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตามวัน เวลา ดังกล่าว ส่วนผู้ที่ต้องการร่วมประกวดหรือแข่งขันจะต้องติดต่อสมัครล่วงหน้า ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.ภาคใต้ เขต 4 และเทศบาลตำบลป่าตอง
11.ท่าเรือฉลองอบจ.ภูเก็ตบริหารเอง วาดฝันแต่งแต้มสีสรรให้โดดเด่น
    อบจ.ภูเก็ตปลื้มท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าของการก่อสร้าง พร้อมวาดฝันสร้างสีสรรบริเวณท่าเรืออย่างเลิศหรู มีรถขนอุปกรณ์นักท่องเที่ยว แต่งแต้มตัวสะพานให้มีชีวิตชีวา พร้อมกับการเข้าไปบริหารเองแบบเบ็ดเสร็จ ส่วนปัญหาชาวบ้านอาจจะได้รับผลกระทบจากการเก็บค่าจอดเรือนั้นหมดห่วงได้เลย ยืนยันจะเก็บเงินจากเรือที่ประกอบธุรกิจเท่านั้น สำหรับการใช้คืนเงินกู้สร้างสะพาน อบจ.ไม่เกี่ยว ว่าเป็นเรืองของรัฐบาล   
    นพ.ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการสร้างท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ในตอนนี้งานก่อสร้างในส่วนที่เป็นสะพานนั้นได้มีการดำเนินการไปมากแล้ว และงานบางอย่างที่เกี่ยวกับระบบ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบประปา พร้อมกับก่อสร้างลานจอดรถพักรอเรือ หรือแม้แต่ถนนภายใน ก็กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการอยู่ นอกจากนั้นก็มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ เนื่องจากสะพานจะมีความยาวประมาณ 700 เมตร การให้บริการผู้ที่ไปใช้ท่าเทียบเรือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักตกปลา นักประดาน้ำ ฯลฯ ที่มีอุปกรณ์มากมาย จึงจำเป็นที่จะต้องมีรถไว้บริการขนของเหล่านี้ และขนาดของรถก็ต้องมีลักษณะพิเศษคือต้องสามารถที่จะขนสัมภาระจำนวนมากได้ในคราวเดียวกัน และรูปร่างของรถก็ต้องเหมาะสมกับบริเวณรอบท่าเทียบเรือด้วย คือมีลักษณะเป็นแฟนตาซี มีการวาดภาพและระบายสีบริเวณตัวรถเพื่อความสวยงาม
    สำหรับตัวท่าเทียบเรืออ่าวฉลองนั้น ในอนาคตจะเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต เพราะฉะนั้นการตกแต่งบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลองให้เข้าภับภูมิทัศน์โดยรอบนั้นเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความสะอาด และทางอบจ.ยังคิดไปถึงว่า ทำอย่างไรที่จะให้ท่าเรือที่เป็นแท่งคอนกรีตที่ยื่นออกไปยังทะเลนั้น เมื่อดูจากข้างนอกแล้วจะไม่ให้เหมือนเป็นแต่แท่งคอนกรีตที่แข็ง
    นายกอบจ.ภูเก็ตกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการบริหารท่าเทียบเรืออ่าวฉลองออกเป็น 3 หน่วยงานด้วยกัน คือ 1. ทางอบจ.จะเป็นผู้บริหารเองโดยการตั้งบอร์ดขึ้นมาเพื่อบริหารงานนี้โดยเฉพาะ 2. อาจจะต้องแบ่งเขตพื้นที่ในการบริหาร เพราะมีกิจกรรมหลายอย่างในบริเวณท่าเทียบเรือที่จะต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมร้านอาหาร ร้านขายของ ซึ่งอาจจะให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม 3.อาจจะให้ทางประมงเข้ามาใช้ในโครงการนี้ด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมด้วยว่ามีความเห็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่
    "ในกรณีของอบต.ฉลองที่เคยมีรายได้จากการจัดเก็บค่าจอดเรือจากท่าเทียบเรือเก่าอยู่ในขณะนี้นั้น ทางอบจ.ก็อาจจะจัดสรรแบ่งส่วนพื้นที่ให้หารายได้ และในปัจจุบันอบต.ฉลองก็ไม่ได้บริหารท่าเรือ เพียงแต่เข้าไปดำเนินการในส่วนของวันสต็อปเซอร์วิสร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าออกของเรือต่างประเทศเท่านั้น" นพ.ประสิทธิ์กล่าว
    ส่วนในเรื่องของการที่จะเปลี่ยนชื่อท่าเทียบเรือหรือไม่นั้น ถ้าหากมีความต้องการที่จะเปลี่ยนชื่อ ก็จะต้องมีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง คือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ได้แก่ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับท่าเรือ ลงความเห็นว่าถ้าต้องการที่จะเปลี่ยนชื่อ ควรใช้ชื่ออะไร แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ตนคิดว่าชื่อท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ก็เป็นชื่อที่ดีอยู่แล้ว
    สำหรับสะพานเก่าที่มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า ให้มีการคงสะพานนี้ไว้เช่นเดิมนั้น นพ.ประสิทธ์กล่าวว่า ถ้ามองในแง่ของการบริหารงานแล้ว ถ้าหากชาวบ้านมีความเดือดร้อนจริงๆ ก็อาจจะปล่อยไว้สักระยะหนึ่ง และเมื่อสะพานใหม่สร้างเสร็จเมื่อไหร่ ชาวบ้านคงจะเห็นว่าสะพานใหม่นั้น สามารถที่จะให้ความสะดวก และปลอดภัยมากกว่าสะพานเก่า เพราะสะพานเก่าไม่สามารถที่จะทำการซ่อมแซมได้แล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งก็คือ ผู้ประกอบการเรือขนาดใหญ่ที่เดิมเคยอยู่ที่ท่าเทียบเรือเก่านั้น ทางอบจ.จะเชิญผู้ประกอบการเหล่านั้นมาปรึกษาเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน และอีกเรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านเป็นกังวลว่า จากเดิมที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจอดเรือ มาตอนนี้จะต้องจ่ายให้กับท่าเทียบเรือนั้น คิดว่าคงจะได้รับการยกเว้นให้ เพราะการจัดเก็บค่าใช้จ่ายจากเรือที่เข้ามาเทียบนั้น จะต้องเป็นเรือที่ทำธุรกิจ เช่น การรับเหมานำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวระหว่างเกาะ หรือเที่ยวข้ามประเทศ ตรงนี้จึงจะมีการจัดเก็บค่าเทียบเรือ
    ส่วนเรื่องของการใช้หนี้เงินกู้โออีซีเอฟนั้น อบจ.ไม่ได้เป็นผู้เซ็นสัญญาเงินกู้ จึงไม่ทราบวิธีการเพราะโครงการนี้เป็นโครงการของรัฐบาล ที่เป็นเป็นผู้มองเห็นปัญหาของท่าเทียบเรือเก่า จึงต้องการที่จะสร้างท่าเทียบเรือใหม่ขึ้นมา และเมื่อมีการดำเนินการแล้ว จำเป็นที่จะต้องหาหน่วยงานที่จะสามารถดูแลโครงการนี้ได้ และในเวลานั้นรัฐบาลก็มีความเห็นว่า อบจ.น่าที่จะสามารถดำเนินการเกี่ยวกับโครงการท่าเทียบเรือได้ จึงได้สั่งการให้ทางอบจ.เป็นผู้ดูแลงานในโครงการนี้.



Home - เกี่ยวกับบริษัทฯ - ติดต่อกับบริษัทฯ - รายละเอียดโฆษณา - แผนผังเว็บไซต์

logoexnew2.gif (1304 bytes)
73/2 ถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร..66-76 214496-8 แฟกซ์.66-76 215933

สงวนลิขสิทธิ์  1998, 1999,2000. บริษัท เอกซ์เพรสดาต้า จำกัด.