|
|
|
โคตรชั่วรุกป่าเฉลิม
อบต.ขวางขับรถไล่ทับ
พบนายทุนจัญไร
หนักแผ่นดินบุกรุกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ
ทำบ่อกุ้งไม่เกรงพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สมาชิก อบต.ป่าคลอก และ บก.นสพ.
เจ้าของท้องที่ออกมาขวาง
กลับขู่ด้วยเสียงปืน
และสั่งให้ลูกน้องขับรถไล่ชน
แล้วทับซ้ำสุดโหดผิดมนุษย์
จากกรณีที่มีกลุ่มนายทุนอิทธิพลบุกรุกป่าชายเลนในพื้นที่
ต.ป่าคลอก
เพื่อขุดบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2543 ร.ต.อ.สุวฤทธิ์
พร้อมมูล ร้อยเวร สภ.อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันที่บริเวณหน้าโรงเรียนสิทธิสุนทรบำรุง
บ้านผักฉีด หมู่ที่ 1 ต.ป่าคลอก
อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก
อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถูกนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต
ได้รับบาดเจ็บถูกชนแขนขวาหัก
น่องซ้ายฉีกขาดเป็นแผลยาวประมาณ
10 นิ้ว
สมองได้รับอาการกระทบกระเทือน
ญาตินำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
ปรากฏว่าแพทย์ต้องช่วยชีวิตโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจและนำเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน
และผู้บาดเจ็บอีกราย คือ น.ส.วรรณา
เพชรยวา อายุ 18 ปี เป็นหลานของ
นายศิริพจน์
ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า แขน
ร่างกายมีแผลถลอกเป็นรอยเขียวซ้ำ
น.ส.วรรณา
เผยว่าตนเป็นผู้ซ้อนท้าย จยย.ยี่ห้อซูซูกิ
อาร์ซี 100 สีเขียว หมายเลขทะเบียน
กบจ.428 ภูเก็ต โดยมีนายศิริพจน์
ชีช้าง
เป็นผู้ขับขี่เพื่อเดินทางไปทำงานที่
อบต.ป่าคลอก
ขณะขับขี่มาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนจุดเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะนิสสัน
บิ๊กเอ็ม ตอนครึ่งสีน้ำเงิน
หมายเลขทะเบียน บจ1657 ภูเก็ต
ได้ขับตามหลังมาและพุ่งเข้าชนอย่างแรง
จนรถ จยย.ล้มลง
และผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวยังได้กลับหัวรถย้อนกลับมาทับร่างนายศิริพจน์
ที่นอนบาดเจ็บอยู่ข้างถนน
หลังจากนั้นได้ขัยรถหลบหนีไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ถลาง
ได้รับการติดต่อ
จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ได้นำตัว
นายบัญชา นพวงศ์ อายุ 34 ปี
บ้านเดิม อยู่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา
และเป็นคนงานของวัชระฟาร์ม
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในเบื้องต้นว่า
เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวเฉี่ยวชนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจริง
ส่วนที่ย้อนกลับมาทับร่าง
นายศิริพจน์
อีกครั้งเป็นเพราะความตกใจ
อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้าน
ต.ป่าคลอก
เนื่องจากทางผู้บาดเจ็บที่รอดชีวิตและญาติๆ
ต่าง
ออกมายืนยันว่าเป็นการพยายามฆ่า
เนื่องจาก นายศิริพจน์ ชีช้าง
เป็นสมาชิก อบต. หมู่ที่ 8 ต.ป่าคลอก
ที่ร่วมกับเพื่อนอีกคน คือ
นายจักรพันธ์ ก้านกนก สมาชิก อบต.
หมู่ที่ 2 ต.ป่าคลอก
คอยท้วงติงขัดขวางการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนของกลุ่มนายทุนที่พยายามเข้าไปบุกรุก
นำพื้นที่มาทำเป็นนากุ้ง
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 43
นายศิริพจน์ และเพื่อนสมาชิก อบต.ป่าคลอก
ได้นำคณะป่าไม้จังหวัดภูเก็ต
ป่าไม้ อ.ถลาง และสื่อมวลชน
เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ
บริเวณหมู่ที่ 2 ต.ป่าคลอก
ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 600
ไร่
และมีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกแล้วกว่า
50 ไร่
โดยบริเวณที่ตั้งของนายทุนรายหนึ่งซึ่งตั้งเป็นฟาร์มเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
ได้มีการบุกรุกป่าชายเลนที่อยู่ติดกับฟาร์มด้วยการขุดเป็นบ่อจำนวน
2 บ่อ เพื่อเลี้ยงกุ้ง
โดยบ่อแรกมีการเตรียมพร้อมที่จะนำลูกกุ้งลงเลี้ยง
ในขณะที่อีกบ่อมีการบุกรุกโดยการใช้คันดินกั้นล้อมไม้โกงกางและใช้น้ำขังเพื่อให้ต้นไม้ตาย
ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
นายศิริพจน์
ได้เป็นแกนนำในการขัดขวางการบุกรุกที่ดินป่าชายเลนมาโดยตลอด
จนถูกนายทุนส่งคนมาข่มขู่ให้ระวังตัวให้ดี
รวมทั้งก่อนเกิดเหตุมีการส่งคนเฝ้าติดตามพฤติกรรมก่อนที่จะมีการส่งให้คนงานของฟาร์มกุ้งมาขับรถชนในลักษณะการพยายามฆ่าดังกล่าว
ด้านนายจักรพันธ์ ก้านกนก สมาชิก
อบต.ป่าคลอก
ที่เป็นเพื่อนคู่หูที่เป็นแกนนำในการขัดขวางการเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่
เผยว่า
เรื่องตนเชี่อมั่นว่าเป็นการเจตนาในการพยายามฆ่า
เพราะนายศิริพจน์
กับตนเคยถูกทางนายทุนเจ้าของวัชระฟาร์มส่งคนมาข่มขู่ในการที่ไปขวางทางการบุกรุกป่าชายเลน
เพื่อมาทำเป็นนากุ้ง
โดยตนเองได้นำเรื่องนี้แจ้งความต่อ
ร.ต.อ.สุวฤทธิ์ พร้อมมูล สภ.อ.ถลาง
ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
และในช่วงสองวันที่ผ่านมา
นายศิริพจน์
ได้เล่าให้ตนฟังว่าระหว่างที่ขับขี่
รถ จยย.มาทำงานที่ อบต.ป่าคลอก
ได้มีรถเบนซ์
ซึ่งเป็นของนายทุนที่มีเรื่องขัดแย้งกัน
ได้ขับรถไล่ตามหลัง
พยายามเฉี่ยวชน แต่รถวิ่งมาถึง
อบต.ก่อน
รถเบนซ์คันดังกล่าวจึงขับหายไป
และรุ่งขึ้นอีกวันในการประชุมสภา
อบต.ป่าคลอก
ได้มีการนำปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติที่ถูกทางนายทุนเข้าไปบุกรุกเพื่อสร้างนากุ้ง
เข้าหารือกำหนดทิศทางในการดำเนินการกับปัญหา
โดยได้มีสมาชิก อบต.ป่าคลอกจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง
และระหว่างทางต้องเดินผ่านวัชระฟาร์ม
ก็พบเห็นรถเบนซ์คันดังกล่าว
ซึ่งนายศิริพจน์
ยืนยันว่าเป็นคันที่พยายามจะเฉี่ยวชนตนเมื่อวันก่อน
จอดอยู่ในฟาร์ม
และเมื่อเดินไปได้สักพักก็ได้มีเสียงปืนดังมาจากในฟาร์ม
4-5 นัด เป็นลักษณะการยิงข่มขู่
ทางสมาชิก อบต.ที่จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่บ่อกุ้งที่มีการบุกรุกป่าชายเลน
จนมาเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว
สำหรับพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.ป่าคลอก
อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ถือได้ว่าเป็นพื้นที่มีสภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ชายเลนเนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันในการอนุรักษ์ป่าชายเลน
ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติจนมีการเฝ้าระวังการบุกรุก
มีการปลูกป่า
จนได้รับการจัดตั้งให้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ
เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่
และล่าสุดจากผลการสำรวจของชมรมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ภูเก็ต
(นิด้า)
ที่ทำการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดภูเก็ต
ในประเด็นต่างๆ ปรากฏว่า อบต.ป่าคลอก
ได้รับคะแนนสูงสุดในฐานะที่เป็น
อบต.ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่น
นอกจากนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาทาง
อบต.ป่าคลอก
ยังได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นหมู่ที่ดูแลแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติดีเด่น
จนได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานธงพิทักษ์ป่ารักษาชีวิตจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวชศ์อันเป็นสัญลักษณ์ดีเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลน
โดยใน 14
จังหวัดภาคใต้จะได้รับเพียง 9
จังหวัด และ อบต.ป่าคลอก
เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับรางวัลดังกล่าว
นางอำไพ ชีช้าง
ภรรยาของนายศิริพจน์ ชีช้าง
ได้เปิดเผยและยืนยันว่าคู่กรณีที่มีปัญหานั้นเป็นนายทุนที่ได้ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติอย่างแน่นอน
เพราะนายศิริพจน์
เป็นที่รักของชาวบ้านและเพื่อนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล
พร้อมยืนยันว่าการถูกทำร้ายในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัวหรือเรื่องชู้สาว
เป็นเรื่องที่เข้าไปขวางการบุกรุกป่าชายเลนเพื่อทำนากุ้งของนายทุนอย่างแน่นอน
สำหรับประวัตินายศิริพจน์
ชีช้าง
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
และยังเป็นบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวท้องถิ่น
หนังสือพิมพ์อันดามันโพสต์
และหนังสือพิมพ์กีฬาบันเทิง
รวมทั้งยังดำเนินกิจการด้านงานพิมพ์ชื่อ
โรงพิมพ์หลีเจริญการพิมพ์
อีกทั้งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน
กกต.ภูเก็ต
และในอดีตยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต
อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต
นายธนพล โคมเมือง
รองประธานชมรมผู้สื่อข่าว จ.ภูเก็ต
พร้อมด้วยสมาชิกชมรมฯ
เข้ายื่นหนังสือต่อ นายพงศ์โพยม
วาศภูติ ผวจ.ภูเก็ต
ขอให้เร่งรัดสอบสวนคดี
นายศิริพงษ์
กรณีได้ถูกรถกระบะของบริษัทวัชระฟาร์ม
ซึ่งมี นายบัญชา นพวงศ์
ขับเฉี่ยวชนและกลับรถมาเหยียบซ้ำทำให้นายศิริพงษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น
มองว่าไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุธรรมดา
แต่เป็นการเกิดจากการพยายามฆ่าให้ถึงแก่ชีวิต
เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่นั้นเห็นได้ชัด
เพราะว่ามีการมาซุ่มดูผู้บาดเจ็บอยู่หลายวันก่อนที่จะลงมือและเมื่อลงมือแล้วก็ยังเลี้ยวกลับมาเหยียบซ้ำอีก
และสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นคาดว่าจะเกิดจากกรณีที่นายศิริพจน์และเพื่อนสมาชิก
อบต. คือ นายจักรพันธ์ ก้านกนก
ได้นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัด
และคณะสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ป่าเฉลิมพระเกียรติ
ซึ่งถูกบุกรุกโดยนายทุนเพื่อทำบ่อกุ้ง
เป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับผู้บุกรุก
และที่ผ่านมา ทั้ง 2
คนก็ถูกข่มขู่มาโดยตลอด
เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากนายทุนที่บุกรุกที่
ภายหลังรับหนังสือร้องเรียน
นายพงศ์โพยม กล่าวว่า
เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้นายอำเภอท้องที่ไปสืบหาข้อมูลในทางลับแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
และได้สั่งการขอความร่วมมือจากผู้บังคับการตำรวจภูธร
จ.ภูเก็ต
เพื่อให้ดูเรื่องนี้และอย่าให้มีการบิดเบือนประเด็น
ให้สอบไปตามข้อเท็จจริง
ซึ่งในวันนี้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร
จ.ภูเก็ต
จะไปสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง
สำหรับเรื่องการให้ความเป็นธรรมนั้นคงต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นการเจตนาฆ่าหรืออุบัติเหตุ
ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต
กล่าวต่อว่า เท่าที่ทราบพบว่า
นายศิริพงษ์
เป็นคนที่ทำเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้และป่าชายเลนมาโดยตลอดตั้งแต่ยังไม่ได้รับเลือกเป็น
สมาชิก อบต.ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการทำตามนโยบายของรัฐบาลและตนเองก็ได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า
เรื่องแรกที่จะต้องทำคือการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์
การกระทำของนายทุนถือว่าเป็นการท้าทายตนด้วย
ไม่ใช่ท้าทายแต่ชาวบ้านอย่างเดียว
เรื่องนี้ตนจะร่วมต่อสู้กับชาวบ้าน
เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตนคิดว่าเป็นการทำลายขวัญและจิตใจของชาวบ้านที่ร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรของชาติพอสมควร
แต่ก็ขอให้ชาวบ้านมีความเชื่อมั่นในส่วนราชการด้วยว่าจะร่วมต่อสู่กับประชาชน
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และผู้ติดตามได้ยกเลิกภารกิจการตรวจเยี่ยามและรับฟังรายงานสรุปการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ
ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด
หลังจากได้รับหนังสือของชมรมผู้สื่อข่าวฯ
และได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของนายศิริพจน์
ที่ รพ.วชิระภูเก็ต
นายพงศ์โพยม
ได้กล่าวกับภรรยาของ
นายศิริพจน์ และชาวบ้าน ต.ป่าคลอก
ประมาณ 50
คนที่ไปคอยเฝ้าและเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยและญาติว่า
ขอให้ร่วมกันต่อสู้ในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติต่อไป
อย่าเพิ่งท้อถอย
เพราะการต่อสู้จะต้องมีการสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา
แต่การสูญเสียครั้งนี้ยังไม่ถึงที่สุด
ตนคิดว่าอาการของ นายศิริพจน์
จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะหมอและพยาบาลต่างก็ดูแลอย่างใกล้ชิด
และในส่วนของผู้เห็นเหตุการณ์ขณะที่เกิดรถเฉี่ยวชนนั้นให้กล้าออกมาเป็นพยานให้กับตำรวจด้วย
เพื่อที่จะใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้เด็ดขาด
และในส่วนของตนก็จะยืนข้างความถูกต้อง
การต่อสู้ของนายศิริพจน์และเพื่อนถือว่าเป็นการกระทำที่น่ายกย่อง
ส่วนกรณีเกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีเนื่องจากเจ้าของ
"วัชระฟาร์ม"
เป็นกรรมการโรงพักนั้น
ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วง
เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
และในการแต่งตั้งกรรมการโรงพักนั้นต่อไปตนจะต้องเข้าไปดูแล
เพราะเรื่องนี้ตนเคยทำมาแล้วที่
จ.นราธิวาส
และจะต้องทำที่ภูเก็ตต่อไปแน่นอน
เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีการล้มคดีเรื่องนี้
นายพงศ์โพยม กล่าวต่อไปว่า
สำหรับเรื่องการสืบพยานในคดีนี้นั้น
อาจจะยกเว้นพยานไม่ต้องมาสอบปากคำที่โรงพัก
แต่ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำที่บ้านของพยาน
เนื่องจากเป็นกรณีพิเศษที่ชาวบ้านยังเกรงกลัวอิทธิพลมืด
เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เดียวกับ
นายศิริพจน์
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามชาวบ้านที่มารอดูอาการนายศิริพจน์
ทราบว่าเมื่อคืนนี้ได้มีการรวมตัวของชาวบ้านประมาณ
100 คน
เพื่อจัดเวรยามในการเฝ้าระวังชาวบ้านที่เปิดตัวเป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เนื่องจากมีคนเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาป่วนเปี้ยนในหมู่บ้าน
และในส่วนของผู้ป่วยที่โรงพยาบาบก็ได้จัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
และในวันนี้ทางด้านผู้ว่าราชการ
จ.ภูเก็ต
ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ อส.ของจังหวัด
ไปอารักขาผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลด้วย
สำหรับอาการของนายศิริพจน์ นพ.นิรันด์
ทวีกูล
หมอศัลยกรรมระบบประสาทกล่าวว่า
อาการของนายศิรพจน์นั้นถือว่าอาการยังน่าเป็นห่วง
จากการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวันแรกถือว่าอาการเข้าขั้นโคม่าในระดับที่ต่ำกว่า
8 ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุด
แต่ในวันที่สองจากการตรวจดูอาการพบว่าดีขึ้น
คนป่วยรู้สึกตัวในบางครั้ง
มีการตอบสนองเป็นระยะ
แต่ก็คงต้องรอดูอาการอีกประมาณ
3-5 วัน ถึงจะบอกได้
สำหรับอาการที่เกิดขึ้นนั้นมี 3
ระดับด้วยกัน คือ
ระบบสมองได้รับการกระทบกระเทือนมีเลือดคั่งในสมองและมีเลือดออกในสมองตลอดเวลา
คงต้องระมัดระวังในเรื่องของสมองบวม
ส่วนการรักษาในขณะนี้ใช้เคื่องช่วยหายใจ
เนื่องจากคนป่วยไม่สามารถหายใจเองได้
และอาการทางสมองนั้นคงต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง
ส่วนอาการอื่นๆ
พบว่าขาหลังด้านซ้ายมีบาดแผลกล้ามเนื้อฉีกขาดออกจขากกระดูก
เส้นเอ็นขาด
และขณะนี้พบว่าบาดแผลที่ขาซ้ายซึ่งเป็นแผลขนาดใหญ่เริ่มติดเชื้อคงต้องระวังในเรื่องของการเข้าเยี่ยมให้มากขึ้น
นอกจากนั้นยังมีอาการข้อศอกหัก
|