headnews.gif (3376 bytes) ท่องเที่ยว  บทความพิเศษ   สมัครงาน
เศรษฐกิจ-ธุรกิจ การตลาด   การลงทุน

    URL: www.phukettoday.com/news

ฉบับที่ 635 ประจำเดือน 9-15 ตุลาคม 2543          
dot.gif (802 bytes)
สารบัญ
ข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจ
ข่าวท่องเที่ยว
ข่าวสังคม
สมัครงาน
สกู๊ปประจำฉบับ
กลับ Phuket Today
 

โคตรชั่วรุกป่าเฉลิม อบต.ขวางขับรถไล่ทับ
พบนายทุนจัญไร หนักแผ่นดินบุกรุกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ ทำบ่อกุ้งไม่เกรงพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมาชิก อบต.ป่าคลอก และ บก.นสพ. เจ้าของท้องที่ออกมาขวาง กลับขู่ด้วยเสียงปืน และสั่งให้ลูกน้องขับรถไล่ชน แล้วทับซ้ำสุดโหดผิดมนุษย์
จากกรณีที่มีกลุ่มนายทุนอิทธิพลบุกรุกป่าชายเลนในพื้นที่ ต.ป่าคลอก เพื่อขุดบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2543 ร.ต.อ.สุวฤทธิ์ พร้อมมูล ร้อยเวร สภ.อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันที่บริเวณหน้าโรงเรียนสิทธิสุนทรบำรุง บ้านผักฉีด หมู่ที่ 1 ต.ป่าคลอก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถูกนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต ได้รับบาดเจ็บถูกชนแขนขวาหัก น่องซ้ายฉีกขาดเป็นแผลยาวประมาณ 10 นิ้ว สมองได้รับอาการกระทบกระเทือน ญาตินำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ปรากฏว่าแพทย์ต้องช่วยชีวิตโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจและนำเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน และผู้บาดเจ็บอีกราย คือ น.ส.วรรณา เพชรยวา อายุ 18 ปี เป็นหลานของ นายศิริพจน์ ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า แขน ร่างกายมีแผลถลอกเป็นรอยเขียวซ้ำ
น.ส.วรรณา เผยว่าตนเป็นผู้ซ้อนท้าย จยย.ยี่ห้อซูซูกิ อาร์ซี 100 สีเขียว หมายเลขทะเบียน กบจ.428 ภูเก็ต โดยมีนายศิริพจน์ ชีช้าง เป็นผู้ขับขี่เพื่อเดินทางไปทำงานที่ อบต.ป่าคลอก ขณะขับขี่มาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนจุดเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะนิสสัน บิ๊กเอ็ม ตอนครึ่งสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บจ1657 ภูเก็ต ได้ขับตามหลังมาและพุ่งเข้าชนอย่างแรง จนรถ จยย.ล้มลง และผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวยังได้กลับหัวรถย้อนกลับมาทับร่างนายศิริพจน์ ที่นอนบาดเจ็บอยู่ข้างถนน หลังจากนั้นได้ขัยรถหลบหนีไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ถลาง ได้รับการติดต่อ จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ได้นำตัว นายบัญชา นพวงศ์ อายุ 34 ปี บ้านเดิม อยู่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา และเป็นคนงานของวัชระฟาร์ม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในเบื้องต้นว่า เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวเฉี่ยวชนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจริง ส่วนที่ย้อนกลับมาทับร่าง นายศิริพจน์ อีกครั้งเป็นเพราะความตกใจ
อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้าน ต.ป่าคลอก เนื่องจากทางผู้บาดเจ็บที่รอดชีวิตและญาติๆ ต่าง ออกมายืนยันว่าเป็นการพยายามฆ่า เนื่องจาก นายศิริพจน์ ชีช้าง เป็นสมาชิก อบต. หมู่ที่ 8 ต.ป่าคลอก ที่ร่วมกับเพื่อนอีกคน คือ นายจักรพันธ์ ก้านกนก สมาชิก อบต. หมู่ที่ 2 ต.ป่าคลอก คอยท้วงติงขัดขวางการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนของกลุ่มนายทุนที่พยายามเข้าไปบุกรุก นำพื้นที่มาทำเป็นนากุ้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 43 นายศิริพจน์ และเพื่อนสมาชิก อบต.ป่าคลอก ได้นำคณะป่าไม้จังหวัดภูเก็ต ป่าไม้ อ.ถลาง และสื่อมวลชน เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ บริเวณหมู่ที่ 2 ต.ป่าคลอก ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 600 ไร่ และมีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกแล้วกว่า 50 ไร่ โดยบริเวณที่ตั้งของนายทุนรายหนึ่งซึ่งตั้งเป็นฟาร์มเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ได้มีการบุกรุกป่าชายเลนที่อยู่ติดกับฟาร์มด้วยการขุดเป็นบ่อจำนวน 2 บ่อ เพื่อเลี้ยงกุ้ง โดยบ่อแรกมีการเตรียมพร้อมที่จะนำลูกกุ้งลงเลี้ยง ในขณะที่อีกบ่อมีการบุกรุกโดยการใช้คันดินกั้นล้อมไม้โกงกางและใช้น้ำขังเพื่อให้ต้นไม้ตาย ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศิริพจน์ ได้เป็นแกนนำในการขัดขวางการบุกรุกที่ดินป่าชายเลนมาโดยตลอด จนถูกนายทุนส่งคนมาข่มขู่ให้ระวังตัวให้ดี รวมทั้งก่อนเกิดเหตุมีการส่งคนเฝ้าติดตามพฤติกรรมก่อนที่จะมีการส่งให้คนงานของฟาร์มกุ้งมาขับรถชนในลักษณะการพยายามฆ่าดังกล่าว
ด้านนายจักรพันธ์ ก้านกนก สมาชิก อบต.ป่าคลอก ที่เป็นเพื่อนคู่หูที่เป็นแกนนำในการขัดขวางการเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่ เผยว่า เรื่องตนเชี่อมั่นว่าเป็นการเจตนาในการพยายามฆ่า เพราะนายศิริพจน์ กับตนเคยถูกทางนายทุนเจ้าของวัชระฟาร์มส่งคนมาข่มขู่ในการที่ไปขวางทางการบุกรุกป่าชายเลน เพื่อมาทำเป็นนากุ้ง โดยตนเองได้นำเรื่องนี้แจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุวฤทธิ์ พร้อมมูล สภ.อ.ถลาง ไว้เป็นหลักฐานแล้ว และในช่วงสองวันที่ผ่านมา นายศิริพจน์ ได้เล่าให้ตนฟังว่าระหว่างที่ขับขี่ รถ จยย.มาทำงานที่ อบต.ป่าคลอก ได้มีรถเบนซ์ ซึ่งเป็นของนายทุนที่มีเรื่องขัดแย้งกัน ได้ขับรถไล่ตามหลัง พยายามเฉี่ยวชน แต่รถวิ่งมาถึง อบต.ก่อน รถเบนซ์คันดังกล่าวจึงขับหายไป และรุ่งขึ้นอีกวันในการประชุมสภา อบต.ป่าคลอก ได้มีการนำปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติที่ถูกทางนายทุนเข้าไปบุกรุกเพื่อสร้างนากุ้ง เข้าหารือกำหนดทิศทางในการดำเนินการกับปัญหา โดยได้มีสมาชิก อบต.ป่าคลอกจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง และระหว่างทางต้องเดินผ่านวัชระฟาร์ม ก็พบเห็นรถเบนซ์คันดังกล่าว ซึ่งนายศิริพจน์ ยืนยันว่าเป็นคันที่พยายามจะเฉี่ยวชนตนเมื่อวันก่อน จอดอยู่ในฟาร์ม และเมื่อเดินไปได้สักพักก็ได้มีเสียงปืนดังมาจากในฟาร์ม 4-5 นัด เป็นลักษณะการยิงข่มขู่ ทางสมาชิก อบต.ที่จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่บ่อกุ้งที่มีการบุกรุกป่าชายเลน จนมาเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว
สำหรับพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถือได้ว่าเป็นพื้นที่มีสภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ชายเลนเนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันในการอนุรักษ์ป่าชายเลน ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติจนมีการเฝ้าระวังการบุกรุก มีการปลูกป่า จนได้รับการจัดตั้งให้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ และล่าสุดจากผลการสำรวจของชมรมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ภูเก็ต (นิด้า) ที่ทำการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดภูเก็ต ในประเด็นต่างๆ ปรากฏว่า อบต.ป่าคลอก ได้รับคะแนนสูงสุดในฐานะที่เป็น อบต.ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่น นอกจากนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาทาง อบต.ป่าคลอก ยังได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นหมู่ที่ดูแลแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติดีเด่น จนได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานธงพิทักษ์ป่ารักษาชีวิตจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวชศ์อันเป็นสัญลักษณ์ดีเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลน โดยใน 14 จังหวัดภาคใต้จะได้รับเพียง 9 จังหวัด และ อบต.ป่าคลอก เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับรางวัลดังกล่าว
นางอำไพ ชีช้าง ภรรยาของนายศิริพจน์ ชีช้าง ได้เปิดเผยและยืนยันว่าคู่กรณีที่มีปัญหานั้นเป็นนายทุนที่ได้ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติอย่างแน่นอน เพราะนายศิริพจน์ เป็นที่รักของชาวบ้านและเพื่อนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล พร้อมยืนยันว่าการถูกทำร้ายในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัวหรือเรื่องชู้สาว เป็นเรื่องที่เข้าไปขวางการบุกรุกป่าชายเลนเพื่อทำนากุ้งของนายทุนอย่างแน่นอน
สำหรับประวัตินายศิริพจน์ ชีช้าง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล หมู่ที่ 2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และยังเป็นบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวท้องถิ่น หนังสือพิมพ์อันดามันโพสต์ และหนังสือพิมพ์กีฬาบันเทิง รวมทั้งยังดำเนินกิจการด้านงานพิมพ์ชื่อ โรงพิมพ์หลีเจริญการพิมพ์ อีกทั้งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ภูเก็ต และในอดีตยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต นายธนพล โคมเมือง รองประธานชมรมผู้สื่อข่าว จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกชมรมฯ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายพงศ์โพยม วาศภูติ ผวจ.ภูเก็ต ขอให้เร่งรัดสอบสวนคดี นายศิริพงษ์ กรณีได้ถูกรถกระบะของบริษัทวัชระฟาร์ม ซึ่งมี นายบัญชา นพวงศ์ ขับเฉี่ยวชนและกลับรถมาเหยียบซ้ำทำให้นายศิริพงษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มองว่าไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นการเกิดจากการพยายามฆ่าให้ถึงแก่ชีวิต เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่นั้นเห็นได้ชัด เพราะว่ามีการมาซุ่มดูผู้บาดเจ็บอยู่หลายวันก่อนที่จะลงมือและเมื่อลงมือแล้วก็ยังเลี้ยวกลับมาเหยียบซ้ำอีก และสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นคาดว่าจะเกิดจากกรณีที่นายศิริพจน์และเพื่อนสมาชิก อบต. คือ นายจักรพันธ์ ก้านกนก ได้นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัด และคณะสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ป่าเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งถูกบุกรุกโดยนายทุนเพื่อทำบ่อกุ้ง เป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับผู้บุกรุก และที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนก็ถูกข่มขู่มาโดยตลอด เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากนายทุนที่บุกรุกที่
ภายหลังรับหนังสือร้องเรียน นายพงศ์โพยม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้นายอำเภอท้องที่ไปสืบหาข้อมูลในทางลับแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และได้สั่งการขอความร่วมมือจากผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต เพื่อให้ดูเรื่องนี้และอย่าให้มีการบิดเบือนประเด็น ให้สอบไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งในวันนี้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต จะไปสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง สำหรับเรื่องการให้ความเป็นธรรมนั้นคงต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นการเจตนาฆ่าหรืออุบัติเหตุ
ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า เท่าที่ทราบพบว่า นายศิริพงษ์ เป็นคนที่ทำเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้และป่าชายเลนมาโดยตลอดตั้งแต่ยังไม่ได้รับเลือกเป็น สมาชิก อบต.ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการทำตามนโยบายของรัฐบาลและตนเองก็ได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า เรื่องแรกที่จะต้องทำคือการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ การกระทำของนายทุนถือว่าเป็นการท้าทายตนด้วย ไม่ใช่ท้าทายแต่ชาวบ้านอย่างเดียว เรื่องนี้ตนจะร่วมต่อสู้กับชาวบ้าน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าเป็นการทำลายขวัญและจิตใจของชาวบ้านที่ร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรของชาติพอสมควร แต่ก็ขอให้ชาวบ้านมีความเชื่อมั่นในส่วนราชการด้วยว่าจะร่วมต่อสู่กับประชาชน
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และผู้ติดตามได้ยกเลิกภารกิจการตรวจเยี่ยามและรับฟังรายงานสรุปการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หลังจากได้รับหนังสือของชมรมผู้สื่อข่าวฯ และได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของนายศิริพจน์ ที่ รพ.วชิระภูเก็ต
นายพงศ์โพยม ได้กล่าวกับภรรยาของ นายศิริพจน์ และชาวบ้าน ต.ป่าคลอก ประมาณ 50 คนที่ไปคอยเฝ้าและเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยและญาติว่า ขอให้ร่วมกันต่อสู้ในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติต่อไป อย่าเพิ่งท้อถอย เพราะการต่อสู้จะต้องมีการสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา แต่การสูญเสียครั้งนี้ยังไม่ถึงที่สุด ตนคิดว่าอาการของ นายศิริพจน์ จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะหมอและพยาบาลต่างก็ดูแลอย่างใกล้ชิด และในส่วนของผู้เห็นเหตุการณ์ขณะที่เกิดรถเฉี่ยวชนนั้นให้กล้าออกมาเป็นพยานให้กับตำรวจด้วย เพื่อที่จะใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้เด็ดขาด และในส่วนของตนก็จะยืนข้างความถูกต้อง การต่อสู้ของนายศิริพจน์และเพื่อนถือว่าเป็นการกระทำที่น่ายกย่อง
ส่วนกรณีเกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีเนื่องจากเจ้าของ "วัชระฟาร์ม" เป็นกรรมการโรงพักนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และในการแต่งตั้งกรรมการโรงพักนั้นต่อไปตนจะต้องเข้าไปดูแล เพราะเรื่องนี้ตนเคยทำมาแล้วที่ จ.นราธิวาส และจะต้องทำที่ภูเก็ตต่อไปแน่นอน เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีการล้มคดีเรื่องนี้
นายพงศ์โพยม กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการสืบพยานในคดีนี้นั้น อาจจะยกเว้นพยานไม่ต้องมาสอบปากคำที่โรงพัก แต่ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำที่บ้านของพยาน เนื่องจากเป็นกรณีพิเศษที่ชาวบ้านยังเกรงกลัวอิทธิพลมืด เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เดียวกับ นายศิริพจน์
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามชาวบ้านที่มารอดูอาการนายศิริพจน์ ทราบว่าเมื่อคืนนี้ได้มีการรวมตัวของชาวบ้านประมาณ 100 คน เพื่อจัดเวรยามในการเฝ้าระวังชาวบ้านที่เปิดตัวเป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีคนเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาป่วนเปี้ยนในหมู่บ้าน และในส่วนของผู้ป่วยที่โรงพยาบาบก็ได้จัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิดเช่นกัน และในวันนี้ทางด้านผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ อส.ของจังหวัด ไปอารักขาผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลด้วย
สำหรับอาการของนายศิริพจน์ นพ.นิรันด์ ทวีกูล หมอศัลยกรรมระบบประสาทกล่าวว่า อาการของนายศิรพจน์นั้นถือว่าอาการยังน่าเป็นห่วง จากการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวันแรกถือว่าอาการเข้าขั้นโคม่าในระดับที่ต่ำกว่า 8 ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุด แต่ในวันที่สองจากการตรวจดูอาการพบว่าดีขึ้น คนป่วยรู้สึกตัวในบางครั้ง มีการตอบสนองเป็นระยะ แต่ก็คงต้องรอดูอาการอีกประมาณ 3-5 วัน ถึงจะบอกได้
สำหรับอาการที่เกิดขึ้นนั้นมี 3 ระดับด้วยกัน คือ ระบบสมองได้รับการกระทบกระเทือนมีเลือดคั่งในสมองและมีเลือดออกในสมองตลอดเวลา คงต้องระมัดระวังในเรื่องของสมองบวม ส่วนการรักษาในขณะนี้ใช้เคื่องช่วยหายใจ เนื่องจากคนป่วยไม่สามารถหายใจเองได้ และอาการทางสมองนั้นคงต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง ส่วนอาการอื่นๆ พบว่าขาหลังด้านซ้ายมีบาดแผลกล้ามเนื้อฉีกขาดออกจขากกระดูก เส้นเอ็นขาด และขณะนี้พบว่าบาดแผลที่ขาซ้ายซึ่งเป็นแผลขนาดใหญ่เริ่มติดเชื้อคงต้องระวังในเรื่องของการเข้าเยี่ยมให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีอาการข้อศอกหัก



Home - เกี่ยวกับบริษัทฯ - ติดต่อกับบริษัทฯ - รายละเอียดโฆษณา - แผนผังเว็บไซต์

logoexnew2.gif (1304 bytes)
73/2 ถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร..66-76 214496-8 แฟกซ์.66-76 215933

สงวนลิขสิทธิ์  1998, 1999,2000. บริษัท เอกซ์เพรสดาต้า จำกัด.