URL: www.phukettoday.com/news

 
12 ปี แอร์พอร์ตภูเก็ต
ฟันกำไร 547 ล้านเศษ
ร.ท.สุธารา ห่วงสุวรรณ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยในโอกาศงานฉลองครบรอบ 12 ปีของท่าอากาศยานภูเก็ต ที่โรงแรมเมโทรโพลว่า การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) ได้เข้ามาบริหารท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2531 จากจำนวนผู้โดยสารเบื้องต้นที่มีจำนวนไม่มาก มาถึงปัจจุบันที่มีจำนวนถึง 3,445,000 คน นอกจากนั้นทางท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยในด้านการบริการอากาศยาน ในงบประมาณปี 2543 จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.69% ส่วนปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 7 .96% การให้บริการสินค้าเพิ่มขึ้นในอัตรา16.84% ส่วนการดำเนินงานด้านการเงิน มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 547.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 42 ถึง 4.37%
ในการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น สิ่งก่อสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายที่ได้ทำมาจริงๆ แล้ว เป็นงบประมาณในการพัฒนาในปี 2536-2541 คือตัวท่าอากศยานภูเก็ต ซึ่งเพิ่งจะเสร็จไปเมื่อไม่นานมานี้ จึงทำให้ตัวอาคารสามารถรับผู้โดยสารได้ทั้งหมดถึง 5 ล้านคน และคาดว่าน่าจะรองรับได้ไปจนถึง 6-7 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เป็นที่น่าเป็นห่วง เพราะการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยได้ทำการเก็บสถิติ และมีการวางแผนในระยะยาวไว้ตลอดเวลา
"การดำเนินงานด้านการพัฒนาบุคลากรของท่าอากาศยานนั้น ก็มีหลายโครงการด้วยกัน เช่น โครงการที่เกี่ยวกับการเพิ่มผลผลิต กิจกรรม 5 ส. ของท่าอากาศยาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการนำระบบมาตรฐานด้านบริการคุณภาพ คือระบบ ISO 9002 มาใช้ ซึ่งปัจจุบันได้มีการรับรองจาก RWTUV เรียบร้อยแล้ว ในบรรดาท่าอากาศยานในส่วนภูมิภาคคือ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่และเชียงรายนั้น ท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นท่าอากาศยานที่ก้าวหน้ามากที่สุด" ร.อ.สุธารากล่าว.

แปรรูปการท่าสะดุด พ.ร.บ.
ตั้งต้นเริ่มนับหนึ่งกันใหม่

ส่วนความคืบหน้าด้านการแปรรูปกิจการท่าอากาศยานนั้น นายธวัช อนุกูล รองผู้ว่าการ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.)ฝ่ายปฏิบัติการเผยว่า ล่าสุดจากการประชุม ของคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายการบริหารรัฐวิสาหกิจ ที่มี ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นประธาน วันนั้นได้มีการประชุมพิจารณาถึงเรื่องว่า จะแปรรูปการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ด้วยการใช้พ.ร.บ.ของการท่าอากาศยานฯเอง หรือ พ.ร.บ.ทุนของกระทรวงพาณิชย์ ความแตกต่างของทั้งสองอย่างนี้ก็คือ ถ้าใช้ พ.ร.บ.ของการท่าอากาศยานฯ ก็ง่าย และถ้ามีการเห็นชอบในวันนั้น ตอนนี้ก็คงมีการจัดตั้งบริษัท และดำเนินการแปรรูปไปแล้วพอสมควร แต่เนื่องจากวันนั้นไม่มีการตัดสินใจ และจะหันกลับไปแปรรูปด้วยการใช้พ.ร.บ.ทุน ทำให้ต้องกลับไปเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่ เพราะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรอ การตัดสินของกฤษฎีกาว่า จะให้ใช้การแปรรูปโดย พ.ร.บ.ใด ก็เลยเกิดการล่าช้าไปอีก
ในกรณีที่ได้ออกมาเดินสายชี้แจงกับพนักงานของท่าอากาศยานภูมิภาคทั้ง 4 ท่านั้น นายธวัชกล่าวว่า ที่ออกมาพบกับพนักงานเมื่อคราวที่แล้วนั้น ไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อขอความคิดเห็นเพียงอย่างเดียว แต่ออกมาเพื่อชี้แจงความคืบหน้า และความเป็นไปของการแปรรูป เพื่อให้พนักงานเข้าใจ เหมือนกับที่ผู้บริหารเข้าใจ หลังจากนั้นถ้าพนักงานมีความเห็นอะไรเพิ่มเติม ก็เสนอขึ้นมา จะได้นำความเห็นนั้นเสนอยังรัฐบาลต่อไป      ผลการสำรวจและดำเนินการมาแล้ว ก็คงสรุปได้เพียงสั้นๆ ว่า ในตอนเริ่มต้นที่บอกว่า ตามมติครม. ให้แปรรูปกิจการ ทอท. โดยมีบริษัทการท่าภูมิภาคที่มีทั้งหมด 4 ท่า เมื่อตั้งบริษัทแปรรูปไปแล้ว จะขายหุ้น 75 เปอร์เซ็นต์ ลบ 1 ก็ปรากฎว่าความเห็นของพนักงานทั้ง 4 ท่า บอกว่าไม่น่าจะขายมาก ควรจะขายไม่เกิน 49 % เพราะขณะนี้เงินที่จะนำไปสร้างสนามบินหนองงูเห่านั้นเพียงพอแล้ว รัฐบาลก็เห็นชอบว่า ให้ขายไม่เกิน 49 % และเกิดความเห็นว่า ไม่น่าที่จะต้องให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นมาก ในประเด็นที่เราต้องการขายหุ้นนั้น ก็เพื่อต้องการที่จะให้ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับท่าอากาศยานเข้ามาช่วยดูแล และปรับปรุงการท่าฯ ให้ดียิ่งขึ้น เพราะพูดถึงการบริหารงานแล้ว เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่ปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาบริหารแน่นอน.
   
ปัสวะรถลีมูซีนแอร์พอร์ต
ได้ไปแล้วน่าจะแก้ไขเอง

การแก้ไขปัญหาเรื่องรถลีมูซีนที่มีปัญหาตามท่าอากาศยานต่างๆ รวมทั้งที่ภูเก็ต นั้น นายธวัชชี้แจงว่า ในฐานะที่ ทอท.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ใน พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการท่าฯ กิจการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มันก็เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะเข้ามาดูแล แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่แล้วก็ไม่อยากที่จะให้เกิดความขัดแย้งกัน จริงๆ แล้ว เรื่องการขนส่งนั้น โดยเฉพาะการขนส่งผู้โดยสาร เป็นบริการหนึ่งที่ต้องการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก ในการเข้าออกท่าอากาศยาน
แต่ว่าธุรกิจของไทยในขณะนี้ ถึงแม้ว่าจะมีการทำทุกอย่างที่ถูกต้อง มีการเปิดประมูล อะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมีอะไรแอบแฝง ก็คงต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นผู้รับผิดชอบ
"เราเองเป็นเพียงผู้เ ข้ามาบริหารพื้นที่ กิจการต่างๆ ก็พยายามทำให้อยู่ในกรอบระเบียบที่วางไว้ แต่อำนาจบางอย่างเราก็ไม่มีจึงไม่สามารถที่จะไปแก้ไขได้ ถึงแม้ว่า รถลีมูซีนเหล่านั้นจะเป็นผู้ประมูลพื้นที่จากการท่าฯ ไปแล้วก็ตาม แต่ในเรื่องของการคุ้มครองทรัพย์สิน และความเสียหายทางร่างกายนั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อีกอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากที่ประมูลไปแล้ว ก็เหมือนกับว่า รถลีมูซีนเหล่านั้นเป็นเจ้าของพื้นที่ตรงนั้นไปแล้ว ไม่ใช่เป็นพื้นที่ของท่าอากาศยานต่อไป ทำไมถึงจัดการกันเองไม่ได้" รองผู้ว่าการฯทอท.ฝ่ายปฏิบัติการกล่าว
ร.อ.สุธารา กล่าวเสริมว่า รถที่ทุกคนขับอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นรถป้ายดำ รวมทั้งรถที่เข้าไปในท่าอากาศยานนั้นก็เป็นรถป้ายดำทั้งสิ้น แล้วจู่ๆ จะให้เข้าไปจับ ก็ไม่รู้ว่าจะจับในข้อหาอะไร เพราะเป็นสิทธิของเจ้าของรถ ที่จะนำรถเข้าไปในพื้นที่เพื่อรับญาติ หรือคนรู้จัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้ามีการเข้าไปทำร้ายผู้โดยสาร ตามกฎหมายถ้าหากว่าใครก็ตาม ที่ทำให้ผู้โดยสารเกิดความรำคาญ เจ้าหน้าที่ก็สามารถที่จะดำเนินคดีได้ และอยากจะให้สื่อมวลชนเข้าไปดูกันสักครั้ง แล้วค่อยมาบอกว่าสมควรจะทำอย่างไร ซึ่งทางเราก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นทุกข้อ
อีกอย่างหนึ่งก็คือ การท่าฯถือกฎหมายเฉพาะการขนส่งทางอากาศเท่านั้น แต่ในเรื่องของการควบคุมกฎหมายต่างๆ นั้น ตำรวจ ขนส่งจังหวัด เป็นผู้ควบคุม เพราะฉะนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย มีความสงบเรียบร้อย และนำมาซึ่งเงินตราเข้าสู่ประเทศ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นท่าที่มีนักท่องเที่ยวลงมาแล้วเกิดความประทับใจ ทั้งในด้านความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย
"แต่โดยในหน้าที่ของการท่าฯ ไม่ว่าจะเป็นการบริการ การอำนวยความสะดวกต่างๆ บอกได้เลยว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตไม่ได้เป็นรองใคร โดยเฉพาะในประเทศไทย ผมเชื่อมั่นอย่างนั้น และไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ เพียงแต่ว่า เราจะพยายาม อย่างไรให้เกิดความร่วมมือ และให้เกิดความถูกต้องในการดำเนินกิจกรรมให้มากที่สุด แต่การที่จะให้ยกเลิกสัมปทานนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากความหลากหลายของผู้โดยสารที่เข้ามา เพราะบางคนมีฐานะ อยากจะนั่งรถดีๆ บางคนก็อยากนั่งรถธรรมดา แตกต่างกันไป แต่ขณะนี้ก็ได้มีการหารือเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้อยู่" ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวในที่สุด.

Home - เกี่ยวกับบริษัทฯ - ติดต่อกับบริษัทฯ - รายละเอียดโฆษณา - แผนผังเว็บไซต์ 73/2 ถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร..66-76 214496-8 แฟกซ์.66-76 215933 สงวนลิขสิทธิ์  1998, 1999,2000. บริษัท เอกซ์เพรสดาต้า จำกัด.