headnews.gif (3376 bytes) ท่องเที่ยว  บทความพิเศษ   สมัครงาน
เศรษฐกิจ-ธุรกิจ การตลาด   การลงทุน

    URL: www.phukettoday.com/news

ฉบับที่ 638 ระหว่าง 30 ต.ค.-5 พ.ย.43         
dot.gif (802 bytes)
สารบัญ
ข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจ
ข่าวท่องเที่ยว
ข่าวสังคม
สมัครงาน
สกู๊ปประจำฉบับ
กลับ Phuket Today
 

 อิตัลไทยเปิดซิง "กิโน่" ไวน์เจอกำแพงภาษีทรุด
ทีมงานขายอิตัลไทยบุกเข้าภูเก็ต เปิดตลาดสินค้าตัวใหม่ "กิโน่" ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สมุนไพรจากฝรั่งเศส เข้าเสริมในธุรกิจสปาของโรงแรมระดับ 5 ดาว เป็นตลาดแรกในต่างจังหวัด ยึดนักท่องเที่ยวจากยุโรปเป็นลูกค้าหลัก ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ชาวยุโรปคุ้นเคยดี ส่วนตลาดไวน์ทั่วไป ตอนนี้กลับอับเฉา เพราะเจอกำแพงภาษีสูงลิ่ว นักดื่มรุ่นใหม่ระดับล่างหมดสิทธิ์ทดลองลิ้ม แต่ในตลาดท่องเที่ยว และในโรงแรมระดับไฮคล้าสของภูเก็ต มีเปิดไวน์ไม่ด้อยกว่ากรุงเทพฯ บอกกำแพงภาษีทำให้ไทยต้องเสียตลาดไวน์ประเทศเพื่อนบ้านไปอย่างน่าเสียดาย
   
เปิดตัว "กิโน่" ที่ภูเก็ต
เสริมธุรกิจสปาโรงแรม
บริษัทอิตัลไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำเข้า และจำหน่ายไวน์ สุรา จากต่างประเทศทั่วโลกมากว่า 30 ปีได้ส่งทีมงานขายมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทางบริษัทนำเข้ามาจำหน่ายเป็นรายแรกคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว "กิโน่" ที่โรงแรม ถาวรบีช วิลเลจ นาคาเลย์ ต.กมลา อ.กะทู้ ภูเก็ต โดยนายกฤติเกษม ปัญญารชุณ ผู้จัดการฝ่ายขายส่วนโภชนาการ บริษัท อิตัลไทย จำกัด ได้ชี้แจงว่า บริษัทอิตัลไทย โดยปกติแล้วจะรู้จักกันในนามผู้นำเข้า และจำหน่ายไวน์ สุรา รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ แต่ตอนนี้ ธุรกิจ "สปา" ในเมืองไทยเริ่มเป็นที่สนใจมาก โดยเฉพาะในโรงแรมระดับ 5 ดาวต่างๆ เพราะถ้าหากโรงแรมใดไม่มีสปา ก็ถือว่าโรงแรมนั้นมีการบริการที่ไม่ครบวงจร ด้วยเหตุนี้ ในฐานะที่เป็นผู้จัดจำหน่าย สุราและเครื่องดื่มอื่นๆ ให้กับโรงแรมอยู่แล้ว ก็เลยเห็นว่า นี่จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสามารถนำสินค้าที่ทางโรงแรมต้องการมาจำหน่ายได้ ก็เลยนำสินค้าตัวที่มีความเกี่ยวข้องกับสปาเข้ามาในประเทศไทย
บริษัทที่ผลิตสินค้าตัวนี้นั้นอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ชื่อ "บริษัท เรเน่ กีโน่" ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ประเภทบำรุงผิว อีกประการหนึ่งก็คือ ธุรกิจสปาก็เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวเห็นว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมาก การนำสินค้าของกีโน่เข้ามาจำหน่ายนั้น เพราะเห็นว่ากีโน่เป็นสินค้าที่มีการยอมรับจากทั่วโลก แล้วก็เป็นสินค้าที่ยังไม่มีบริษัทใดนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ฉะนั้น เมื่อสามารถเปิดตลาดเป็นบริษัทแรกได้ ก็ถือว่าบริษัทเป็นผู้นำในตลาดนี้
นายกฤติเกษมกล่าวว่า เรื่องของการขออนุญาต หรือใบรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขนั้น ครีมบำรุงผิวต่างๆ ของกีโน่ ได้ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสุขภาพต่างๆ มาแล้ว จึงไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไร อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของกีโน่ทุกชนิด สกัดมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น แล้วทาง อย. ก็ยอมรับว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จังหวัดภูเก็ตมีโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่มาก และเป็นจังหวัดที่มีธุรกิจสปามากด้วย ก็เลยเป็นตลาดแรกในต่างจังหวัด ที่บริษัทอิตัลไทยมาเปิดอย่างเป็นทางการ
หลังจากนี้ จะไปเปิดสาขาย่อยที่ไหนบ้างนั้น คงต้องศึกษาดูก่อนว่า การต้อนรับในตลาดของภูเก็ตเป็นอย่างไร แต่เราก็ได้สำรวจตลาดทางภาคใต้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กระบี่ หรือสมุยพบว่า มีหลายโรงแรมเตรียมตัวจะเปิดธุรกิจสปาขึ้นเหมือนกัน ส่วนภาคอื่นๆ นั้น อิตัลไทยก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจแล้วเช่นกัน อย่างเช่นที่ภาคเหนือ ที่ เชียงใหม่ เชียงราย ส่วนการตั้งเป้าการขายนั้น เราไม่ได้ตั้งไว้สูงมากนัก เพราะว่าในช่วงแรกถือว่าเป็นการแนะนำสินค้า
ในเรื่องของการแข่งขันนั้น ผลิตภัณฑ์ถนอมส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้ว ถือว่ากีโน่เป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับการถนอมผิวหน้านั้น ก็มีหลายบริษัทที่เข้ามาจำหน่ายอยู่ก่อน ก็ถือว่ากีโน่ยังเป็นน้องใหม่ในวงการนี้ แต่ก็มีความเชื่อมั่นว่ากีโน่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้ และสถานที่แรกที่จะเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ของกีโน่ก็คือ โรงแรมถาวรบีช วิลเลจ แต่ตอนนี้เริ่มที่จะใช้แล้ว และกำลังจะขยายส่วนของเสปาที่โรงแรมออกไปให้ดีกว่าเดิม จุดขายของกีโน่ก็คือ เป็นยี่ห้อที่นิยมมากในยุโรป ฉะนั้น นักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตจะรู้จักดี และมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์นี้
" ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ธุรกิจสปาในเมืองไทยยังให้ความสนใจกับสมุนไพรของไทยอยู่ แต่เราเล็งเห็นว่ากีโน่ มีสินค้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ ที่เมืองไทยยังไม่มี สามารถที่จะเสริมตลาดนี้ได้ เพื่อให้แต่ละโรงแรมได้มีการบริการที่ครบวงจร" นายกฤติเกษมกล่าว
   
ตลาดไวน์เจอกำแพงภาษี
นักดื่มรุ่นใหม่หมดสิทธิ์ลิ้ม
ส่วนทางด้านของตลาดไวน์นั้น ผู้จัดการฝ่ายขายฯของอิตัลไทย เผยว่าในตอนนี้ตลาดโดยทั่วไปของไวน์ เหมือนย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีก่อน คือกลายมาเป็นตลาดของนักท่องเที่ยว และกลุ่มคนไทยที่จำกัด เหตุผลก็เพราะว่าระดับภาษีที่ขึ้นมาสูงมาก ทำให้นักดื่มรุ่นใหม่ที่อยากทดลองดื่มไวน์ไม่สามารถเข้ามาในตลาดนี้ได้ ฉะนั้นตอนนี้ จึงต้องพยายามให้ความสำคัญกับตลาดของโรงแรม และตลาดในแหล่งท่องเที่ยว มากเป็นพิเศษ
อิตัลไทยตอนนี้มีส่วนแบ่งของตลาดไวน์อยู่ประมาณ 10% ของตลาดทั่วประเทศ เหตุผลหลักก็คือ อิตัลไทยจะเน้นสินค้าไวน์ที่อยู่ในระดับกลางไปจนถึงระดับสูง ต้องยอมรับว่าการเติบโตของสินค้าไม่ว่าจะเป็นไวน์ หรือวิสกี้นั้น จะโตอยู่ในระดับล่าง ซึ่งอิตัลไทยไม่ได้มีบทบาทอยู่ในระดับนี้ จึงทำให้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่แค่ 10%
ในส่วนของการวางตลาดในเมืองท่องเที่ยวนั้น นายกฤติเกษม กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตต้องถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพรองลงมาจากกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ และหลายๆ โรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ก็สามารถที่จะจำหน่ายไวน์ได้มากกว่าในกรุงเทพฯก็มี ต้องยอมรับว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้าง
ที่จะมีคุณภาพสูงกว่าจังหวัดอื่น ไวน์ที่นำเข้าส่วนใหญ่จะนำมาจากประเทศที่เป็นผู้ผลิตไวน์หลักทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย หรืออิตาลี และล่าสุดที่นำไวน์เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยก็คือ ไวน์จากอาร์เจนติน่า ยี่ห้อของไวน์ที่เป็นที่นิยมของอิตัลไทยในตอนนี้ก็คือ ไวน์ที่มาจากประเทศฝรั่งเศส ยี่ห้อ จอร์จ เดอ เบิร์ฟ และในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็จะมีเทศกาลไวน์เกิดขึ้น ซึ่งคิดว่าไวน์ชื่อนี้จะมีอยู่ทั่วจังหวัดภูเก็ตแน่นอน
ถ้าเปรียบเทียบตลาดไวน์ในปีที่แล้วกับปีนี้ ถือว่าโตขึ้นมาพอสมควร เพราะว่าปีที่แล้วตลาดค่อนข้างที่จะเงียบมาก ถ้ามองจากตลาดโดยรวมแล้วคิดเป็นประมาณ 30-40% แต่ถ้าเทียบกับปี 2539 หรือปี 2540 ก็ถือว่าโตไม่มาก และคิดว่าตลาดไวน์ในปี 2544 จะเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะว่าบริษัทผู้นำเข้าเริ่มปรับตัว และหาสินค้าที่จะนำมาป้อนตามที่ตลาดต้องการได้แล้ว
นายกฤติเกษม กล่าว่า ภาษีไวน์นั้น ถือว่ามีส่วนทำให้ตลาดไวน์ลดลงไปมาก ภาษีไวน์ของประเทศไทยนั้นสูงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และเป็นที่น่าเสียดายว่าตอนนี้เราก็เสียตลาดให้กับประเทศเพื่อนบ้านไปเยอะ เช่น ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เพราะทั้งสองประเทศดังกล่าว ได้ตลาดเสริมจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพม่า เวียดนามและลาว หรือประเทศที่มีโรงแรม ทำให้ไทยเสียโอกาสนี้ไป
ส่วนการแข่งขันในกลุ่มตลาดไวน์ด้วยกันเองตอนนี้ ค่อนข้างที่จะลดน้อยลง เพราะจำนวนผู้นำเข้าลดลง อาจจะเหลือประมาณ 10-15 บริษัทเท่านั้น ที่ยังมีกิจกรรมที่ต่อเนื่อง สาเหตุหลักก็คือ ส่วนหนึ่งบริษัทที่เคยเปิดเป็นตัวแทนจำหน่ายไวน์นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจเสริมเสียมากกว่า แต่พอเห็นว่าตลาดเริ่มที่จะทรุดลง บริษัทเหล่านี้ก็กลับไปทำงานที่เคยทำอยู่เดิม แต่บริษัทอิตัลไทยที่เปิดมา 30 กว่าปีนั้น สามารถอยู่ได้ เพราะเป็นที่รู้จักของตลาด และมีลูกค้าที่เชื่อมั่นในชื่อเสียงของบริษัทอยู่แล้ว
ส่วนตลาดไวน์ในภูเก็ตนั้น ถ้าพูดถึงปริมาณการดื่มแล้ว ก็ยังมีศักยภาพที่ดี เพราะเท่าที่ดู หลายๆ โรงแรมก็เริ่มที่จะปรับราคาลงมา ทำให้ปริมาณการขายสูงขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้อิตัลไทยได้ร่วมมือทำกิจกรรมกับหลายๆ โรงแรม ในการโปรโมทสินค้าช่วงเทศกาลต่างๆ แต่ยอดการจำหน่ายไวน์ในปีนี้ อาจจะไม่ถึงเป้าที่ได้วางไว้ เพราะว่ามีการปรับราคาลงมา หรือผู้ซื้ออาจจะหาไวน์ที่ราคารองลงมา จากที่เมื่อก่อนเราเคยขายไวน์ในราคาขวดละ 1,000 บาท เมื่อผู้ซื้อหันมาซื้อขวดละ 500 บาทแทนแล้วนั้น เราต้องขายให้เป็น 2 เท่าของยอดที่เคยขาย เพื่อที่จะได้ยอดเงินที่เท่ากัน ราคาไวน์ที่บริษัทอิตัลไทยขายนั้น ต่ำสุดอยู่ที่ขวดละ180 บาท สูงสุด 50,000 บาท.


Home - เกี่ยวกับบริษัทฯ - ติดต่อกับบริษัทฯ - รายละเอียดโฆษณา - แผนผังเว็บไซต์

logoexnew2.gif (1304 bytes)
73/2 ถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร..66-76 214496-8 แฟกซ์.66-76 215933

สงวนลิขสิทธิ์  1998, 1999,2000. บริษัท เอกซ์เพรสดาต้า จำกัด.