เตือนสมาชิกรีบสมัครแข่งกอล์ฟรายการ
พีซีซี-มาสด้าเพราะช้าอาจเต็ม
การแข่งขันกอล์ฟรายการ
"พีซีซี - มาสด้า กอล์ฟ
ทัวร์นาเม้นท์ 2000"
ได้รับความสนใจจากนักกอล์ฟ
เนืองแน่นแห่สมัครไม่เว้นแต่ละวันผู้จัดคาดเต็มก่อน
กำหนดแน่
และจะไม่มีการเพิ่มจำนวน
เพราะเกรงก๊วน ติดจะหมดสนุก
หากไม่ต้องการผิดหวังต้องรีบสมัคร
โดยด่วน
นายทรงศักดิ์ หงษ์หยก
ผู้จัดการคลับเฮ้าส์
สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับเปิดเผยว่า
จากการที่ทาง
สนามได้กำหนดจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่
ประจำปี "พีซีซี - มาสด้า กอล์ฟ
ทัวร์นาเม้นท์ 2000"
ในระหว่างวันที่ 25 - 26 พฤศจิกายน 43
เป็นเวลา 2 วัน และเมื่อวันที่ 17
พฤศจิกายน ที่ผ่านมาคณะ
กรรมการจัดการแข่งขัน
ก็ได้จัดการแถลงข่าวอย่าง
เป็นทางการต่อสื่อมวลชนไปแล้วนั้น
ปรากฎว่าขณะ
นี้ได้รับความสนใจจากนักกอล์ฟ
ทั้งสมาชิกของ สนาม
และไม่ใช่สมาชิกรวมทั้งนักท่องเที่ยว
ต่างก็ติดต่อ
สมัครเข้าร่วมแข่งขันล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก
และ
คาดว่าผู้สมัครจะเต็มตามจำนวนที่กำหนดไว้ก่อน
ถึง วันแข่งขันแน่นอน
นายทรงศักดิ์กล่าวว่า
หากมีผู้สมัครเต็มตาม
จำนวนที่กำหนดไว้แล้ว
คณะกรรมการจัดการแข่ง
ขันก็จะปิดรับสมัครทันที
โดยไม่มีการเพิ่มได้อีกแม้
แต่คนเดียว
เพราะหากรับจำนวนมากเกินไปจะทำให้
การแข่ขันล่าช้า
และติดขัดทำให้นักกอล์ฟเล่นไม่
สนุก
ซึ่งอันนี้คือหัวใจของการจัดการแข่งขัน
โดย ไม่ได้เน้น ที่จำนวน
สำหรับการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ถือว่าเป็น
หนึ่งในรายการใหญ่ประจำปีของจังหวัดภูเก็ต
เปิด
รับสมัครนักกอล์ฟทั้งสมาชิก
และไม่ใช่สมาชิกเข้า
ร่วมแข่งขันมีถ้วยรางวัลให้ชิงกันทั้งวันแรก
วันที่สอง และรางวัลถ้วยรวม
นอกจากนั้นยังมีอาหารเช้า อาหาร
เย็น
และงานเลี้ยงในพิธีมอบรางวัลพร้อมของรางวัล
จับฉลากสกอร์การ์ดอีกเป็ฯจำนวนมากด้วย
ที่สำคัญกอล์ฟรายการนี้มีรางวัลโฮลอินวันเป็น
รางวัลใหญ่ทั้งสิ้น
ซึ่งประกอบด้วยรางวัลที่หลุม 17
เป็น รถยนต์มาสด้าจำนวน 1 คัน
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก
บริษัทอนุภาษธุรกิจและการค้าจำกัด
ส่วนที่หลุม 2 และ หลุม 14
เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าหลุมละ 1
คัน โดยหลุม 2
ได้รับการสนับสนุนจากห้างหุ้นส่วนจำกัด
นิวสิริยนต์ ส่วนหลุม 14
สนับสนุนโดยสนามกอล์ฟ
ภูเก็ตคันทรีคลับ
นอกยากนั้นหลุมพาร์ 3 ที่เหลืออีก
1 หลุมคือหลุม 5
ผู้ที่สามารถทำโฮลอินวัน
ได้ก็จะ
ได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
ของซิลค์แอร์ 1 รางวัล โดย
เลือกเส้นทางเองจาก 19
เส้นทางที่สายการบินนี้เปิดเดิน
อยู่พร้อมส่วนลดพิเศษ 50 % สำหรับ
ผู้ร่วมเดินทางอีก 1 ที่
และสำหรับการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้
นอก จากจะเป็นการชิงถ้วย
พีซีซี-มาสด้าแล้ว ยังเป็นการ
แข่งขันรายการ ภูเก็ต อเมเจอร์
แชมเปี้ยนชิพ หรือ
การแข่งขันชิงแชมป์สมัครเล่นจังหวัดภูเก็ต
เพื่อชิงถ้วย ของ ร.ท.ภูมิศักดิ์
หงษ์หยก นายกเทศมนตรีเมือง
ภูเก็ตด้วย
อัตราค่าสมัครเข้าร่วมแข่งขันประเภทสมาชิกคนละ
2,000 บาท นักท่องเที่ยวคนละ 4,000 บาท
ซึ่งรา คานี้ได้รวมค่ากรีนฟี
แคดดี้ ของที่ระลึก เครื่องดื่ม
อาหารเช้า 2 วัน
และงานเลี้ยงอาหารค่ำ ในพิธีมอบ
ถ้วยรางวัล
ซึ่งจะจัดที่สโมสรคันทรีคลับคอร์ส
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามราย
ละเอียดเพิ่มเติม
และสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ที่
สนามกอล์ฟภูเก็ต คันทรีคลับ
หมายเลขโทรศัพท์ 321038-44 ทุกวัน
จังหวัดภูเก็ตร่วมกับองค์การเอกชนจัดแข่งโบว์ลิ่งการกุศล
นายพงศ์โพยม
วาศภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัด
ภูเก็ต
ได้เปิดเผยว่าจังหวัดภูเก็ต
และศูนย์ประสานงานองค์การเอกชนประจำจังหวัดภูเก็ต
จะจัดการแข่ง
ขันโบว์ลิ่นการกุศล
เพื่อหารายได้ในการสนับสนุน
การดำเนินงาน
และจัดกิจกรรมด้านสวัสดิการสังคม
และสังคมสงเคราะห์แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส
และ ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ
การแก้ไขปัญหาสังคม ด้าน
การป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติดให้โทษ และ
สมทบทุนการพัฒนา
และอนุรักษ์อาคารศาลากลาง
จังหวัดภูเก็ตตาม
โครงการเรารักศาลากลางจังหวัด
ภูเก็ต
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันกีฬา
เพื่อ
เชื่อมความสมัคคีระหว่างหน่วยงานราชการ
องค์ การเอกชน
ภาคเอกชนของจังหวัดภูเก็ต
โดยประเภท
การแข่งขันเป็นการแข่งขันประเภททีม
3 คน ค่า สมัครเข้าแข่งขันทีมละ 3,000
บาท
สำหรับผู้ที่สนใจจะร่วมแข่งขัน
สามารถ สมัครได้ที่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
ฝ่ายกิจการภาคเอกชน โทร. 212726
ตั้งแต่บัด นี้ถึงวันที่ 22
พฤศจิกายน 2543 จะทำการแข่งขันที่
เพิร์ลโบว์ภูเก็ต ถ.พังงา อ.เมือง
จ.ภูเก็ต ในวันเสาร์ที่ 25
พฤศจิกายน 43 เริ่มเวลา 09.00 น. - 18.00 น.
ภาค 8
ห่วงเลือกตั้งวุ่น
สั่งตำรวจภูเก็ตเคลียร์พื้นที่
ผู้บัญชาการภาค
8 ห่วงพื้นที่ภาคใต้ ตอนบน
ลุกเป็นไฟช่างเลือกตั้งเดินสายเข้าภูเก็ต
ย้ำให้
ทุกสถานีเตรียมเคลียร์พื้นที่รับเลือกตั้ง
ให้ตั้งจุดตรวจ
กวาดล้างอาชญากรรมเข้มงวดกับระวัง
ผู้สมัครขัดแย้งกันหลังเลือกตั้ง
ให้ตั้งจุดตรวจกวาด
ล้างอาชญากรรมเข้มงวดกับระวังผู้สมัครขัดแย้งกัน
หลังเลือกตั้ง
พล.ต.ต.ปรุง บุญผดุง
รองผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค 8
พร้อมด้วยคณะได้ร่วมประชุมกับนาย
ตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต ที่ห้องประชุม
สภ.อ.เมืองภูเก็ต
เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย
ในระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จ.ภูเก็ต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6
มกราคมศกหน้า พร้อม
กันทุกจังวหัดทั่วประเทศทั้งนี้
ทางกองบัญชาการตำ รวจภูธรภาค 8
มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนมอบ
หมายให้ ทุก สภ.อ.และสภ.ต.ในจังหวัด
ภาคใต้ตอนบน
เตรียมการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายใด
ทั้งในช่วงก่อน การเลือกตั้ง
หรือระหว่างการเลือกตั้งและหลักการ
เลือกตั้ง
โดยให้กำหนดมาตรการตามสถานการณ์
และ
การข่าวที่ได้รับหรือที่เกิด
ขึ้นในแต่ละพื้นที่จังหวัด
สำหรับประเด็นการกวดขันตรวจสอบจับกุม
ก่อนการเลือกตั้งนั้นเน้นไปที่มือปืนรับจ้าง
อาวุธปืนสง
ครามระเบิดที่ผิดกฎหมาย
รวมไปถึงคดีอาญา ค้างเก่า
คดียาเสพย์ติด
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความ
ไม่สงบในการเลือกตั้ง สส.
ส่วนสถานการณ์อาชญา
กรรมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พล.ต. ปรุง
กล่าวแสดงความคิด เห็นด้วยว่า
ในช่วงเบื้องต้นนี้
สถานการณ์ยังไม่น่าเป็น
ห่วงแต่อย่างใด
แต่ไม่ประมาทได้มอบหมายสั่งการให้
จัดกำลังออกกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องใน
4 ห้วงเวลา
เมื่อใกล้ถึงช่วงการเลือกตั้ง
หรือหลังการเลือก ตั้ง ประมาณ 1
สัปดาห์ จะมีการตั้งจุดตรวจ
และระดม กำลังกวาด
ล้างอาชญากรรมอย่างเข้มงวดกวดขัน
ซึ่ง คาดว่าหลักการเลือกตั้ง สส.
น่าจะมีการขัดแย้ง
ระหว่างกลุ่มผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคต่างๆ
และผู้
เกี่ยวข้องมากกว่าช่วงก่อนการเลือกตั้ง
ภูเก็ตเทคโนเทงบนำร่อง
สอนประชาธิปไตยในโรงเรียน
โรงเรียนภูเก็ตเทคโนโลยีเปิดโครงการนำร่อง
โดยการทุ่มงบประมาณ
ให้กับนักศึกษาในแต่ละห้องเรียน
ได้เรียนรู้การจัดประชุมให้เป็นนักพัฒนา
และนักวิจัยให้รู้ระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ขณะที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนเชื่อว่าหลายๆ
คนที่ จบปริญญาตรี โทและเอก
ยังไม่รู้เรื่องการประชุม
ต้องหาจากประสบการณ์ในการทำงาน
พร้อมเปิด โรงเรียนฯ
เป็นศูนย์ตลาดของวิชาอีก ด้วย
ร.ต.ท.ณรงค์ เทวคุปต์
ผู้อำนวยการโรงเรียน
ภูเก็ตเทคโนโลยีเปิดเผยว่า
ทางโรงเรียนได้จัดทำโครง
การนักเรียน สักศึกษา นักพัฒนา
นักประชาธิปไตย
โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปีการศึกษา
2543 นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายปรัชญา
การศึกษาของโรงเรียน
และแนวทางการเรียนการสอน
โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
(Child Center) เพื่อสนับ
สนุนส่งเสริมให้นักเรียน
นักศึกษา ฝึกวิธีการประชุม
การแสดงความคิดเห็น
ในการสร้างสรรค์ฟังและยอม
รับความคิดเห็นของผู้อื่น
การสรุปมติที่ประชุม และแสด
งบทบาทในการประชุมตามครรลองประชาธิปไตย
เพื่อ สนับสนุน
ส่งเสริมให้นักเรียน
นักศึกษาจัดทำโครงการ
เพื่อพัฒนาสังคมทั้งภายใน
และภายนอกโรงเรียนใน
ภาวะที่มีปัจจัยจำกัด
เพื่อให้ได้ศึกษาเรียนรู้โดย
การปฏิบัติจริง
นำไปสู่การคิดเป็น ทำเป็น
แก้ปัญหา เป็นอย่างแท้จริง
และมีความรับผิดชอบฝึกการเป็น
ผู้นำและผู้ตามที่ดีในสิ่งที่ถูกต้อง
จะได้นำความรู้
และประสบการณ์ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ในการ ประกอบอาชีพ
และนำไปพัฒนาสังคมประชาธิปไตย
แบบกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
นอกจากนั้นยังเป็นการ
ฝึกทักษะด้านการบริหารจัดการการเงิน
เวลา บุคคล
และสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิ
ผลทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
เพื่อให้นักเรียน
นักศึกษาได้แสดงบทบาทผู้บริหารรุ่น
เยาว์
สำหรับการดำเนินโครงการนั้นจะให้นักเรียน
นักศึกษาจัดประชุมกันเองในแต่ละชั้นเรียน
เพื่อตัด เลือกประธาน
รองประธานและเลขานุการจากนั้น
แต่ละชั้นเรียน
ก็จัดการประชุมเดือนละครั้ง ตาม
ระเบียบวาระที่จัดทำขึ้น
มีการบันทึกการประชุม และ
นำเสนอโรงเรียนทราบภายใต้การดูแลของอาจารย์
ที่ปรึกษา
นอกจากนั้นแต่ละชั้นเรียนจะร่วมกันคิด
และ
จัดทำโครงการเพื่อประโยชน์ต่อสังคม
โดยมีข้อกำหนด
ว่าต้องเริ่มด้วยการศึกษาสภาพปัจจุบัน
และปัญหา
ตลอดจนสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นใหม่ลงมติเลือกประ
เด็นที่จะดำเนินการ
และตั้งชื่อโครงการศึกษาโครงการ
และความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน
จัดทำโครงการ ตามแผนที่ถูกต้อง
โดยแสดงรายละเอียดด้านวิธี
ดำเนินงาน งบประมาณ
และการจัดหาตลอดจนระยะ
เวลาให้ชัดเจน
นำเสนอโครงการผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา
เพื่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียนอนุมัติ
จากนั้นก็
ดำเนินการตามที่ได้รับอนุมัติ
โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา
เป็นที่ปรึกษาโครงการ
ซึ่งจะมีการตรวจ และประเมิน
ผลตามโครงการตามแบบวิธีที่กำหนดไว้ในโครงการ
เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริหารโรงเรียนต่อไป
สำหรับการดำเนินโครงการของแต่ละชั้นเรียน
นี้จะอยู่ภายใต้การเชิญวิทยากรผู้มีความรู้จาก
หน่วย งานทั้ง
ภาครัฐและเอกชนมาให้ความรู้และแนวทาง
ในการจัดทำโครงการอาจารย์ที่ปรึกษานำโครงการ
เสนอโรงเรียน
เพื่อพิจารณาอนุมัติโดยมีคณะกรรม
การซึ่งทางโรงเรียนตั้งขึ้น
เป็นผู้พิจารณากลั่นกรอง
ทั้งนี้หลังจากดำเนินการเป็น
เวลา 2 ภาคการ ศึกษา
แล้วก็ให้จัดประกวดโครงการดีเด่น
ซึ่งพิจารณาและ ตรวจสอบโดยคณะ
กรรมการภายใน และนอกโรงเรียน
ซึ่งการดำเนินโครงการทั้งหมดนี้
จะได้รับเงินงบประ
มาณอุดหนุนจากทางโรงเรียนจำนวน
390,000 บาท และเงินจัด
สรรห้องเรียนละ 10,000 บาท
นอกเหนือจากโครงการนี้แล้ว
ผู้อำนวยการ
โรงเรียนภูเก็ตเทคโนโลยี
กล่าวด้วยว่า ทางโรง เรียนฯ
จะเป็นศูนย์กลางตลาดวิชา
เนื่องจากภูเก็ต เราขณะ
นี้นักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเก็ตหลายชาติ
ดังนั้นมีหลาย
ภาษาที่ประชาชนต้องการที่จะเรียนรู้
เพื่อประกอบ อาชีพต่อไป
ดังนั้นคนใดที่มีความรู้ด้านภาษาไม่ว่า
ภาษาอะไร
ก็สามารถติดต่อมาถ่ายทอดให้คนอื่นๆ
ได้ นอกเหนือจากภาษาแล้ว
ในด้านอาหารเองก็เช่นเดียว กัน
ใครที่มีความรู้ด้านนี้
ก็สามารถสอนให้กับคนอื่นๆ
ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับทางโรงเรียนฯ
เป็นเพียงตัวกลางเท่านั้นที่เปิดให้กลุ่มคนเหล่านี้
มาใช้สถานที่ถ่ายทอดความรู้
ให้กับคนอื่นๆ
รายละเอียดของการสอนนั้น
ก็แล้วแต่ผู้
สอนกับผู้ที่จะมาเรียนรู้ว่าตกลงเวลา
ตามความสะดวก กันเองต่อไป
ชาวกมลารวมตัวแสดงพลัง
ปกป้องที่สาธารณะหน้าหาด
ชาวบ้านตำบลกมลา
ผนึกกำลังปกป้อง ที่สา
ธารณะหน้าหาด หลัง มีมือดี
เอาหลักไปปัก
เตรียมบุกรุกฝ่ายอำเภอ ยืนยัน
จะทำการตรวจสอบรังวัดออกหนังสืออย่างเป็นทาง
การให้เป็นที่หลวง
พัฒนาได้แค่เป็นสวนสาธารณะ
เมื่อสายวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้
กลุ่มชาว บ้านตำบลำมลา อ.กะทู้
จ.ภูเก็ต ประมาณ 150 คน
ได้รวมตัวกันปิดบริเวณถนน
เลียบหาดกมลา
เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาตรวจสอบ
ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์
หน้าหาดกมลา
โดยเฉพาะในบริเวณที่องค์การบริหารส่วนตำบล
กมลา
เตรียมจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะประจำ
ตำบล
เนื่องจากในช่วงเช้าของวันนี้ได้มีกลุ่มบุคคล
นำไม้มาปักและใช้รั้วกั้นรอบบริเวณดังกล่าว
กลุ่ม
ชาวบ้านผู้ชุมนุมประท้วงจึงเกรงว่ากลุ่มนักธุรกิจ
หรือ
นายทุนจะเข้าไปครอบครองหรือยึดถือทำ
ประโยชน์
โดยผิดกฏหมายเหมือนกับบางโรงแรมที่
รุกล้ำที่สาธารณะ
โดยมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน
รู้เห็นเป็นใจ
ในเวลาต่อมา นายสมศักดิ์
แสนยานุภาพ นายอำเภอกะทู้
พร้อมด้วยที่ดินอำเภอและ
พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ
ผู้กำกับการสถานี
ตำรวจภูธรอำเภอกะทู้
ได้เข้ามารับฟังปัญหาร่วม
กับชาวบ้าน
พร้อมกันนี้ได้ทำข้อตกลงร่วมกัน
โดย
พื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการรังวัดตรวจสอบ
เพื่อจัด
ทำหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง
(นสล) และ
ยังคงเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์
และภาค
เอกชนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นได้
นอก
จากการปรับปรุงพื้นที่เป็นสวนสาธารณะตาม
ความตั้งใจของชาวบ้าน
ส่วนการติดตามบุคคล
ที่นำไม้มาเตรียมกั้นรั้วนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่ง
ดำเนินการติดตามมาสืบสวนสอบสวนภายหลังชาว
บ้านรับฟังข้อตกลงแล้ว
มีความพอใจในการแก้ไข
ปัญหาเฉพาะหน้าของทางอำเภอกะทู้
และหน่วย ราชการที่เกี่ยวข้อง
จึงแยกย้ายกันกลับพร้อมเปิด
ถนนให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้
เมื่อช่วง เย็นที่ผ่านมา
ส่วนที่ประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต
นาย วงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์
รองผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต
เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนา
จ.ภูเก็ต นายวงศ์ศักดิ์
สวัสดิพาณิชย์ รองผู้ว่า ราชการ
จ.ภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะ
กรรมการพัฒนา จ.ภูเก็ต
และคณะกรมการจังหวัด
ต่อเนื่องมาจากการประชุมคณะกรรมการพัฒนา
จังหวัดครั้งที่ 4/2543
ที่มีการหยิบยกปัญหา
ประชาชนจากต่างจังหวัด
อพยพเข้ามาทำมาหากิน
ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก
ก่อให้เกิดปัญหาชุมชน แออัด
บุกรุกที่สาธารณะ การเร่ร่อน
ขอทาน หญิงบริการ
การแพร่ระบาดของยาเสพย์ติด และ
โรคเอดส์รวมทั้งโรคติดต่ออื่นๆ
ตลอดจนการก่อ
อาชญากรรมรูปแบบต่างๆ
และยังเป็นกลุ่มที่เข้า
มาใช้บริการสาธารณูปโภค
น้ำประปา ไฟฟ้า และ
บริการสาธารณะอื่นๆ
ที่กำลังเป็นปัญหาสำหรับ
ชาวเมืองภูเก็ต
และเป็นปัญหาในลักษณะที่คล้าย
คลึงกันกับแรงงานต่างด้าวด้วย
ทั้งนี้ทาง จ.ภูเก็ต
เรียกร้องให้ทุกส่วนราชการ
และหน่วยงานต่างๆ
ที่จัดทำแผนพัฒนาจังหวัด 5 ปี
หรือ ปี 2545-2549
พิจารณาจัดทำรายละเอียด
แผนงานโครงการเพิ่มเติมในส่วนที่จะต้องรองรับ
การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
หาก ปล่อยไว้ไม่มีการแก้ไข
และวางแผนจะสร้างความ
เสียหายต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้กำหนดให้จัดส่งแผนงานโครงการ
ให้สำนัก งานจังหวัดภายในวันที 15
พฤศจิกายน เพื่อสร้าง
ภูมิคุ้มกันให้กับเมืองภูเก็ต
โดยส่วนรวมที่รัฐบาล
และจังหวัดภูเก็ตต้องการพัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่
และเมืองนานาชาติ
ทั้งอาจจะจำเป็นต้องใช้มาตร
การทางกฏหมาย
เพื่อเร่งรัดจัดระเบียบสังคมให้มี
ประสิทธิภาพ
ทางด้านนาแพทย์ประสิทธิ์
โกยศิริพงศ์
นายกองค์การบริหารส่วน จ.ภูเก็ต
กล่าวแสดง ความคิดเห็นว่า
ประชาชนต่างจังหวัดควรมาติด
ต่อย้ายทะเบียนกับ
ทางเทศบาลหรือองค์การ
บริหารส่วนจังหวัด
เพื่อควบคุมปริมาณประชากร
ให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะ
และสามารถควบคุมได้มาก
ส่วนทางเทศบาล ต.กะทู้
กำลังเร่งตรวจสอบบ้าน
เช่าในพื้นที่
โดยเรียกร้องให้จ้าของบ้านกำหนด
ให้ผู้เช่า
ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในพื้นที่
เพราะ
จะเป็นประโยชน์ในการเสนอข้อมูล
สถิติประชากร
ที่แท้จริงต่อกระทรวง ทบวง
กรมต่างๆ หรือรัฐบาล
เพื่อขอรับงบประมาณพัฒนาจังหวัดในทุกโครงการ
ได้อย่างเต็มที่
โรงแรมในเครือเลอเมริเดียนจัดประกวดภาพถ่าย
หลังจากประสบความ
สำเร็จ ในการประกวด ภาพถ่าย
ในปีที่ผ่านมา
กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท
ในเครือเลอเมอริเดียน
ประเทศไทยได้จัดให้มีการประกวดภาพถ่ายครั้งที่
2 ขึ้นอีก โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อเปิดโอกาสให้ช่างภาพมือสมัครเล่นได้แสดงความสามารถ
และนำเสนอผลงานใหม่ๆ
ต่อสาธารณชน
และเพื่อเป็นการสนับสนุนปีการท่อง
เที่ยวไทย
มร.จอห์น มอร์ริส
ผอ.ผ่ายการตลาดของเลอ
เมอริเดียนรีสอร์ทประเทศไทย
กล่าวถึงการประกวด
ภาพถ่ายครั้งที่ 2
ซึ่งเปิดสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่น
ในหัวข้อ "Faces and Places of Thailand"
ครั้งนี้ว่าเมื่อพิจารณาดูจากจำนวน
และคุณภาพงาน
ที่ส่งเข้ามาในปีก่อน
ซึ่งสูงเกิดความคาดหมายทำให้ผู้
จัดและผู้สนับสนุนหลักของเรามีความมั่นใจว่า
การ ประกวดในครั้งที่ 2
จะได้ความสนใจมากกว่าเดิม
และยินดีที่จะให้การสนับสนุนการประกวดภาพถ่ายดัง
กล่าวอย่างเต็มที่
ภาพถ่ายกว่า 100 ภาพ จาก 1,000 ภาพ
ที่เข้าร่วมการประกวดในครั้งแรกนั้น
ได้ถูกนำไปจัด นิทรรศ
การที่เลอเมอริเดียนรีสอร์ทในจังหวัดภูเก็ต
เชียงรายและเกาะสมุย
นอกจากนี้เรายังมีโครงการ
จัดทำปฏิทินตั้งโต๊ะ
และหนังสือรวบรวมภาพ
ถ่ายที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในลักษณะของ
Coffee Table Book
เพื่อใช้เป็นของที่ระลึกมอบ
ให้แก่แขกพิเศษของทางโรงแรม
ภาพที่ส่งเข้า
ประกวดจะเป็นภาพบุคคล
สถานที่สำคัญ หรือ
แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ในประเทศไทยก็ได้ โดย
ผู้ส่งภาพเข้าประกวดสามารถส่งได้ไม่เกิน
5 ภาพ โดยส่งเป็นฟิล์มสไลด์
ส่วนภาพขาวดำหรือ ภาพสี
จะต้องอัดภาพขนาด 8X10 นิ้ว แนบ
มาพร้อมกับฟิล์ม โดยมีเงื่อนไข
คือ ห้าม ตกแตกภาพด้วยวิธีการใดๆ
และภาพที่ส่งจะ
ต้องไม่เคยเข้าประกวดหรือได้รับรางวัลมาก่อน
ผู้ชนะการประกวดจะได้ตั๋วเครื่องบินไป/กลับ
กรุงเทพ-ซิดนีย์ จำนวน 2 ที่นั่ง
จาก แควนตัส/บริติช แอร์เวย์ส
พร้อมที่พัก 5 คืน
ที่โรงแรมเลอเมริเดียนซินีย์
ของรางวัลจาก แคนนอนและโกดัก
รวมทั้งห้องพักที่เลอ
เมอริเดียน
รีสอร์ทในจังหวัดภูเก็ต
เชียงราย และเกาะสมุย
ผู้สนใจสามารถส่งภาพด้วย ตนเอง
หรือส่งทางไรษณีย์ (ลงทะเบียน)
ได้ที่ วัสสิกา
สำนักงานเลอเมอริเดียน รีสอร์ท
ประเทศไทย ชั้น 17 ห้อง 1702 อาคาร
ทูแปซิฟิคเพลส เลขที่ 142
ถนนสุขุมวิท คลองเตย กรุงเทพฯ 10110
ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2543 หรือ
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่ม เติมที่ 653-2201/7
|