เบรกอิทธิพลตักดินขาย
สั่งดำเนินการให้ถูกต้อง
ผู้ใหญ่บ้านย่านฉลองจี้ก้นผู้ว่าฯ
บอกผู้มีอิทธิพลขุดตักดินขาย
ทำลายสิ่งแวดล้อมมากกว่า 2 ปี
ไม่มีใครจัดการ
เลยต้องยกโขยงทีมงานออกไปดู
สั่งหยุดชั่วคราวก่อน
เพื่อตรวจสอบ
ผิดก็ต้องว่ากันตามผิด
เป็นเรื่อง อบต.ต้องจัดการ
นายเจริญ เทวบุตร
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลฉลอง
อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต
เปิดเผยถึงที่ดินแปลงดังกล่าวว่า
ตามกฎหมายของกระทรวงวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี
ระบุไว้ว่าห้ามขุดตักดิน
เพื่อการค้าในระยะเกินความสูง 30%
ลึกห้ามเกิน 1.5 เมตร
ทั้งนี้เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและที่ดินแปลงนี้มีเจ้าของ
มีรถบรรทุกมาขนดิน
โดยมีการนำดินไปจำหน่ายมานานกว่า
2 ปีแล้ว
ตนจึงรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาคือ
นายอำเภอให้รับทราบแล้ว
พร้อมกันนั้นก็ให้รายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในฐานะที่ตนเป็นผู้ปกครองท้องที่นี้
นายเจริญ กล่าวอีกว่า
การขุดดินแปลงนี้มีเจ้าของ
แต่ผิดพระราชบัญญัติกฎกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
ตามที่ได้รายงานไปนั้น
ก็ไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด
เพียงแต่รายงานไปว่าเป็นการทำผิดกฎหมายที่ได้ระบุไว้
ส่วนใครมาดำเนินการในที่ดินแปลงนี้นั้นในรถสิบล้อ
เขียนว่าหน้ารถว่า
"ภูเก็ตวานิช"
ซึ่งเจ้าของที่ดินที่แท้จริงอยู่ในเครือญาติประธานบริหาร
อบต.ฉลอง
ขณะที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
บอกกับผู้สื่อข่าวว่า
ที่ดินแปลงนี้มีการขุดดินมานาน
3-4 ปีแล้ว
ซึ่งผิดกฎกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
ซึ่งมีการตักดินเกินจากที่ดินที่มีอยู่จริงนั้นมาก
พร้อมกันนั้นยังทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
เกรงว่าสิ่งแวดล้อมในบริเวณนี้จะเกิดความเสียหาย
และไม่สมดุลย์กับวิธีทางธรรมชาติ
และยังที่แหล่งน้ำ
ของสายน้ำผ่านประมาณ 5
เมตรอีกด้วย
อย่างไรก็ดีภายหลังจากได้สัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้านหมู่
6 ตำบลฉลอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางจังหวัดโดย
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
ได้มอบหมายให้นายพีระพัฒน์ ณ นคร
หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ตพร้อมเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ฉลอง
และเจ้าหน้าที่ที่ดินที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาสำรวจที่ดินแปลงดังกล่าวอีกด้วย
ในเรื่องทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายพงศ์โพยม วาศภูติ กล่าวว่า
ที่ดินแปลงนี้เท่าที่ตรวจสอบแล้ว
ยอมรับว่าผิดจริง
ตามกฎหมายที่ดิน
กฎหมายสิ่งแวดล้อม
และกฎหมายปฏิรูปที่ดิน
ซึ่งบางแปลงมีที่ดินปฏิรูป
และมีการกระทำผิดจริงหลายๆ
เรื่อง แต่บางเรื่องที่ผิดนี้
ทางเจ้าของที่ดินสามารถขออนุญาตได้
แต่ไม่ได้ขอ
ดังนั้นประการแรกต้องยุติการขุดขนดินทันที
และส่วนใดที่ทำการขออนุญาตที่ได้ให้ขออนุญาต
เช่นเมื่อตรวจสอบแล้วไม่ออกนอกเขต
เขาก็จะสามารถขอพระราชบัญญัติขุดดิน
ถมดินได้
แต่เมื่อกฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้ามาก็จะต้องทำการขออนุญาตสิ่งแวดล้อมด้วย
นายพงศ์โพยม กล่าวด้วยว่า
เมื่อมีการทำความผิดคิดว่าจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนจะกล่าวว่าจังหวัดไม่เป็นธรรม
เพราะว่าขณะนี้มีหลายแปลงที่มีการขุดดินกัน
ในเรื่องนี้ก็ขอให้เขาชี้มา
แปลงไหนก็ไปดู
อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้กฎหมายได้ให้อำนาจท้องถิ่นดูแล
ดังนั้นเรื่องนี้ได้สั่งให้ทาง
อบต.ดำเนินการ หาก
อบต.ไม่ดำเนินการก็เข้าข่ายละเว้น
ทำไมต้องอ้อมค้อม
เพราะปัจจุบันกฎหมายให้ท้องถิ่นดูแลอยู่แล้ว
|