กกต.นัดว่าที่ ส.ส. ใหม่
ซักซ้อมการรับสมัคร
ว่าที่ผู้สมัคร
ส.ส.ภูเก็ต แห่เข้าพบ กกต.ภูเก็ต
ซักซ้อมทำความเข้าใจการสมัคร ส.ส.
ตามกฎหมายใหม่กันคึกคัก มีแค่ 2
รายส่งตัวแทนมาล้วนเป็นผู้สมัครจากเขต
2
15 พ.ย. 43
ห้องประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดภูเก็ต
บรรดาว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(ส.ส.) จ.ภูเก็ต
และตัวแทนของผู้สมัคร ส.ส.
แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจาก 5
พรรคการเมือง ประกอบด้วย
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยรักไทย
พรรคชาติพัฒนา พรรคชาติไทย
และพรรคความาหวังใหม่
ได้เข้าร่วมรับฟังซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับสมัคร
และรับมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการรับสมัครเลือกตั้ง
ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-24
พฤศจิกายน นี้ ที่ศาลาประชาคม
จ.ภูเก็ต
โดยว่าที่ผู้สมัครซึ่งไม่ได้เข้าร่วมรับฟังและซักซ้อมทำความเข้าใจแต่ส่งตัวแทนมารับฟังแทน
ได้แก่ นายเรวุฒิ จินดาพล
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา
เขต 2 และ นางเฉลิมลักษณ์
เก็บทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2
นายกิติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต
กล่าวว่า
การเชิยว่าที่ผู้สมัครมาในครั้งนี้เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับการรับสมัคร
และเอกสารที่จะต้องใช้ในการรับสมัคร
เพื่อให้การดำเนินการรับสมัครเป็นไปอย่างรวดเร็ว
และทาง กกต.จังหวัด
สามารถที่จะส่งเอกสารรายละเอียดของผู้สมัครทั้งหมดให้กับทาง
กกต.ส่วนกลางได้ทันทีเมื่อสิ้นสุดการรับสมัครเพื่อกระจายไปยังหน่วยเลือกตั้งกลางทั้งในและต่างประเทศ
นายกิติพงษ์ กล่าวว่า
ปัญหาว่าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ยังคงสงสัย
คือในส่วนของความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับหลักฐานการยืนยันว่าได้ใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา
(สว.) จริง
ซึ่งความจริงแล้วหลักฐานดังกล่าวนั้นไม่ได้มีความสำคัญมากนัก
แต่หลักฐานที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากคือ
หลักฐานการยืนยันจากทางหัวหน้าพรรคว่าให้ลงรับสมัครจริง
ซึ่งก็มีการตรวจสอบหลักฐานอื่นๆ
ของผู้สมัครแล้วเป็นอย่างดี
เกี่ยวกับการร้องเรียนในเรื่องการกระทำผิดตาม
พ.ร.บ. เลือกตั้ง นั้น นายกิติพงษ์
กล่าวว่า
ได้มีการร้องเรียนเข้ามาแล้วหลายเรื่อง
ซึ่งทาง
กกต.ก็ได้มีการเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ
ไว้ ซึ่งมีทั้งสิ่งของ เสื้อผ้า
ต่างๆ แต่ทาง กกต.จังหวัด
เองก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับทาง
กกต.กลาง จะเป็นผู้ตัดสิน
รวมทั้งต้องดูเจตนาของผู้ให้สิ่งของด้วยว่าเป็นเช่นไร
ซึ่งในความเห็นของตนคิดว่า
หากเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการที่จะทำผิดก็น่าที่จะหลีกเลี่ยง
ภายหลังการรับฟังและซักซ้อมความเข้าใจแล้ว
ทางบรรดาว่าที่ผู้สมัครจากพรรคต่างๆ
ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว
โดย นายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล
ว่าที่ผู้สมัคร
จากพรรรประชาธิปัตย์ เขต 1
กล่าวถึงการทำงานด้านการเมืองว่า
ที่ผ่านมาได้มีการออกหาเสียงกับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด
ซึ่งได้รับการตอบรับการตอบรับเป็นอย่างดี
ซึ่งแนวคิดของตนนั้นคิดว่า
ในการทำหน้าที่ ส.ส.
เป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทย
และในฐานะที่ลงสมัครแบบเขตเลือกตั้งก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
สำหรับการแก้ปัญหาของภูเก็ตนั้น
คิดว่าคงแก้ในเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นพิเศษไม่ได้
แต่ต้องแก้ไปพร้อมกันอย่างเป็นสมดุล
ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ
สิ่งแวดล้อม สุขภาพ
และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ทันตแพทย์หญิงญาดา
ปาลิมาพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร
จากพรรคไทยรักไทย เขต 1 กล่าวว่า
ในการเตรียมความพร้อมของการเลือกตั้งนี้นั้น
ตนมีความพร้อมอย่างเต็มที่
โดยการหาเสียงก็เน้นให้เป็นไปตามแนวทางเพื่อให้เกิดการปฏิรูปทางการเมืองอย่างแท้จริง
พร้อมการทำความเข้าใจกับประชาชนในการเลือกตั้งแบบใหม่
รวมถึงการนำเสนอนโยบายของพรรคซึ่งเน้นให้ภูเก็ตเป็นเมืองหลักของภาคใต้ในด้านเศรษฐกิจพิเศษ
หรือเป็นเมืองปกครองในรูปแบบพิเศษ
โดยในมุมมองของตนนั้น
ขณะนี้ปัญหาของภูเก็ตที่จะต้องมีการแก้ไข
ได้แก่ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
การอนุรักษ์วัฒนธรรม
ปัญหาที่เกิดจากการท่องเที่ยว
การค้าประเวณี ปัญหายาเสพย์ติด
ปัญหาด้านสาธารณสุข
ทางด้านนายประเสริฐ
ตันติปุษปรรฆ์
ว่าที่ผู้สมัครจาพรรคความหวังใหม่
เขต 1
กล่าวถึงการตัดสินใจลงรับสมัครในครั้งนี้ว่า
เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ
โดยเป็นตัวแทนประชาชนในระดับล่าง
โดยจุดขายของตนเน้นเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
สร้างความเป็นธรรมให้เกิดกับทุกฝ่าย
รวมไปถึงเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
การส่งเสริมการรักษาพยาบาลให้เท่าเทียม
การแก้ปัญหายาเสพย์ติด
อย่างไรก็ตาม
ในส่วนของการลาออกของ
พลเอกกิตติ รัตนฉายา
ประธานคัดเลือกผู้สมัคร
ส.ส.ภาคใต้ตอนบน
ได้ลาออกจากตำแหน่งนั้น
นายประเสริฐ กล่าวว่า
คงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครในพื้นที่
จ.นครศรีธรรมราช
เพราะในฐานะที่ท่านทำงานกับพรรคมาเป็นเวลานานและสะสมประสบการณ์ทางการเมืองมาเป็นเวลานาน
ซึ่งก็ได้มีการฝากฝังให้มีการสานงานต่อไป
นายหิรัญ เทพศิริอำนวย
ว่าที่ผู้สมัคร พรรคไทยรักไทย
เขต 2 กล่าวว่า
จากการลงพื้นที่มาเป็นเวลา 2 ปี
สามารถทำงานทางการเมืองได้โดยไม่มีปัญหาอุปสรรค
เพราะผู้สมัครส่วนใหญ่ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี
และคิดว่าการหาเสียงของภูเก็ตจะไม่มีความรุนแรงเหมือนพื้นที่อื่นๆ
และเรื่องของการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้น
ก็คงทำได้ลำบากมากขึ้น
และคิดว่าวิธีการดังกล่าวคงใช้ไม่ได้ผลสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้
ส่วนปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดของเขต
2 คือเรื่องของถนน 4 เลน
ซึ่งสร้างไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์
นายสำคัญ แสงไฟ
ว่าที่ผู้สมัครพรรคชาติพัฒนาเขต
1
กล่าวถึงการลงรับสมัครในครั้งนี้ว่า
เป็นการลงเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งของพี่น้องประชาชน
ซึ่งปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามและเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข
คือในเรื่องของยาเสพย์ติด
ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสิ่งแวดล้อม
ตลอดจนปัญหาที่เกิดจากการท่องเที่ยว
ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงพัฒนาให้เกิดทางเลือกใหม่
ตลอดจนการสร้างจุดขายใหม่ๆ ด้วย
ด้านนายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคชาติไทย
เขต 1 กล่าวถึงการลงรับสมัครว่า
การตัดสินใจลงครั้งนี้
เพราะคิดว่าหากยังอยู่ในสถานะเดิม
การทำงานแก้ปัญหาต่างๆ
นั้นทำได้ยาก
โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ
และคิดว่าการลงต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการต่อสู้กับพรรคการเมือง
แต่เป็นการสู้กับทุนต่างชาติ
ซึ่งคิดว่าหากได้เข้าไปรับตำแหน่งจะทำใน
3 เรื่องใหญ่
คือผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในเขตเมืองให้มากขึ้น
จัดให้มีระบบขนส่งมวลชน
และดูแลปัญหาเรื่องของขยะ
ปะการัง
เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
และประชาชนในทุกระดับพร้อมรับกับแนวทางที่นำเสนอ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้รายงานด้วยว่า
สำหรับประเด็นในการหาเสียง
สำหรับว่าที่ผู้สมัครนั้น
ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว
เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
รวมถึงการจะเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องของยาเสพย์ติด
ซึ่งเป็นปัญหาที่นับวันที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับว่าที่ผู้สมัครของจังหวัดภูเก็ตนั้น
ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ เขต
1 นายสุวิทย์ เสงี่ยามกุล เขต 2
นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ,
พรรคไทยรักไทย เขต 1
ทันตแพทย์หญิงญาดา ปาลิมาพันธ์
เขต 2 นายหิรัญ เทพศิริอำนวย,
พรรคชาติพัฒนา เขต 1 นายสำคัญ
แสงไฟ เขต 2 นายเรวุฒิ จินดาพล,
พรรคความหวังใหม่ เขต 1
นายประเสริฐ ตันติปุษปรรฆ์
และพรรคชาตไทย เขต 1
นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา
|