headnews.gif (3376 bytes) ท่องเที่ยว  บทความพิเศษ   สมัครงาน
เศรษฐกิจ-ธุรกิจ การตลาด   การลงทุน

    URL: www.phukettoday.com/news

ฉบับที่  645 ประจำวันที่ 24 ธันวาคม ๒๕๔๓- 1 มกราคม ๒๕๔๔    
dot.gif (802 bytes)
dot.gif (802 bytes)
สารบัญ
ข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจ
ข่าวท่องเที่ยว
ข่าวสังคม
สมัครงาน
สกู๊ปประจำฉบับ
กลับ Phuket Today
 
ทหารรัวเอ็ม.16 ฆ่าวัยรุ่น เกิดม็อบไล่กองเรือภาค 3   
    วัยรุ่นอิสลาม ถูกยิงตายหน้ากองบัญชาการฐานทัพเรือ กองเรือภาค 3 แหลมพันวา ญาติพี่น้องและ
เพื่อนพ้องเดือด ยืนยันเป็นฝีมือของทหารเรือคู่อริจัดม็อบเอาศพตั้งหน้าฐานทัพ ปิดถนนประท้วงข้ามวันข้ามคืน เจ้าเมืองรุดไปเคลียร์ปัญหากลับถูกกลุ่มชาวบ้าน "บล็อก" ตัวต่อรอง กว่าจะหลุดออกจากกลางม็อบได้สุดทุลักทุเล หลังรับเงื่อนไขพบเบื้องหลังม็อบยืดเยื้อเพราะมีการเมืองเข้าหนุน
วัยรุ่นถูกยิงโหด หน้ากองเรือ ภ. 3
    กลางดึกของคืนวันที่ 13 ธ.ค. 43 ร.ต.ท. คะนึง พิทักษ์กุลธร ร้อยเวร สภ.อ. เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งมีวัยรุ่นถูกยิงตายกลางถนนหน้าทางเข้ากองบัญชาการกองเรือภาค 3 (ภูเก็ต) กองเรือยุทธการ บ้านแหลมพันวา หมู่ 8
ต. วิชิต อ. เมือง ภูเก็ต จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ. ชลิต ถิ่นธานี ผกก.
พ.ต.ท. วีระศิลป์ ขวัญเซ่ง รอง ผกก . ฝ่ายปราบปราม พ.ต.ท. อดุลย์ นิรภัย สว.เวร ร.ต.อ. วิชาคม คำจำปา สว.ป. ร.ต.อ. สมหมาย อ่อนคำ รอง สว. สส. รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง และศพวัยรุ่นถูกยิงนอนตายกลางถนน
    จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายชื่อ นาย มาต๊าด หาทรัพย์ อายุ 16 ปี นับถือศาสนาอิสลาม อยู่บ้านเลขที่ 33 บ้านแหลมพันวา หมู่ 8 ต. วิชิต ใกล้ที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่ศรีษะตายคาที่ มูลนิธิกุศลธรรมจะนำศพส่งโรงพยาบาลวชิระให้แพทย์ชันสูตรศพ แต่กลับถูกคัดค้านจากชาวบ้านจึงต้องประสานงานกับแพทย์เวรและพยาบาลไปดำเนินการยังที่เกิดเหตุ
    จากการสอบปากคำทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตาย ได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับ จ.ท. สมพร พันธ์พิทักษ์ อายุ 24 ปี ทหารสังกัดกองเรือภาคที่ 3 อันเนื่องมาจากผู้ตายได้มีรถจักรยานยนต์ปาดหน้ารถยนต์ จ.ท. สมพร ต่อมา ร.ท. ผอบ ไกรสมุทร รน. ผู้บังคับบัญชาทราบได้นัดทั้งคู่มาไกล่เกลี่ย แต่ในช่วงที่ จ.ท. สมพร เดินเข้าไปขอโทษกลับถูกผู้ตายชกหน้า หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุ นาย มาต๊าด ถูกยิงตาย ขณะมาเที่ยวที่หน้ากองเรือภาคที่ 3 ซึ่งญาติพี่น้องเชื่อว่าเป็นฝีมือของทหารเรือ จึงได้รวมตัวกันประท้วงขับไล่ทหารเรือขึ้น
    ทางด้านการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบปลอกกระสุนปีนเอ็ม. 16 จำนวน 9 ปลอก ตกอยู่บนเนินดินในเขตรั้วภายในกองบัญชาการกองเรือภาค 3 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและอยู่ริมถนนห่างจากจุดพบศพประมาณ 10-12 เมตร จึงได้เก็บปลอกกระสุนเหล่านั้นไว้เป็นหลักฐาน
ประท้วงเร่งหาตัวคนร้าย ยันเป็นทหารเรือคู่กรณี
    จากกรณีดังกล่าว ญาติพี่น้องผู้ตายจึงได้รวบรวมชาวบ้านที่นับถือศาสนาอิสลามรวมตัวกันก่อม๊อบขึ้นประท้วง โดยการนำเอาขอนไม้ เศษฟืนสุมไฟปิดถนนบริเวณหน้ากองบัญชาการกองเรือ พร้อมกับตะโกนด่าสาปแช่งทหารเรืออย่างหยาบคาย และระบุชัดเจนว่า ทหารเป็นผู้ฆ่าประชาชนกับเรียกร้องให้ทางตำรวจและนายทหารผู้บังคับบัญชาจับตัว จ.ท. สมพร คู่กรณีของผู้ตาย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืน มาเนินคดีโดยเร็ว เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ เมื่อชาวบ้านจะบุกเข้าไปในกองบัญชาการ และยืนยันจะปิดถนนต่อไปจนกว่าจะมีการจับ
กุม จ.ท. สมพร ดำเนินคดีแล้ว
    ต่อมาทางนายอำนวย สงวนนาม รอง ผวจ. ภูเก็ต ได้เดินทางไปเจรจากับผู้ชุมนุมอีกครั้งแต่ทางผู้ชุมนุมยังคงยืนยันที่ให้ทางตำรวจจับกุมมือปืนมาก่อนจึงจะยอมสลายตัว ซึ่งบรรยากาศเริ่มตึงเครียดจนต่อมาทาง
นาวาเอก ศิริวัฒน์ พรหมทรัพย์ นายทหารพระธรรมนูญ ได้ออกมารับปากกับชาวบ้านว่าจะไม่เข้าข้างคนผิดหากมีทหารเป็นผู้กระทำความผิดและรับปากว่าจะนำตัว จ่าโท สมพร ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืนมามอบตัว โดยนาวาเอก ศิริวัฒน์ ได้เดินทางร่วมกับตำรวจ สภ.อ. เมือง ภูเก็ต มี รตอ. เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง สว. สส. และกำลังตำรวจ5 นายได้เดินทางไปยังฐานทัพเรือพังงา บ้านลำแก่น ต. ทับละมุ อ. ท้ายเหมือง จ. พังงา จนกระทั่งเวลา 06.00 น. ทั้งหมดพร้อม จ.?. สมพร ได้ถูกนำตัวมายัง สภ.อ. เมืองภูเก็ต โดยทั้งหมดได้ปิดห้องทำงานของ ผกก. และมีนายทหารพระธรรมนูญร่วมฟังการสอบปากคำ ซึ่งในเบื้องต้น จ.ท. สมพร ยังให้การปฏิเสธซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านและญาติผู้ตายได้พากันขึ้นมาบนโรงพักร่วมร้อยคน เพื่อดูหน้า จ.ท. สมพร เมื่อทราบว่ายังไม่มีการตั้งข้อหาก็พากันกลับไปปักหลักชุมนุมประท้วงพร้อมมีการเขียนโปสเตอร์โจมตีทหารข้อความต่าง ๆ ในขณะที่ประชาชนที่ชุมนุมหน้ากองบัญชาการ กองเรือภาคที่ 3 มีนายอำนวย คุ้มบ้าน สมาชิก อบจ. ภูเก็ต นายสำคัญ แสงไฟ
ผู้สมัคร ส.ส. พรรคชาติพัฒนา จ.ภูเก็ต เขตเลือกตั้งที่ 1 และคณะเป็นผู้ที่รับอาสาเข้าไปเจรจา และติดตามความคืบหน้า โดยให้เวลาทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษนานใน 2 ชั่วโมง หากไม่สามารถดำเนินการตามคำเรียกร้องได้ กลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าไปยังกองบัญชาการ ซึ่งอยู่ตั้งบริเวณเนินเขาใกล้อ่าวพันวา หรือห่างจาก กองรักษาการณ์ที่ชุมนุมอยู่ประมาณ 400 เมตร แต่การชุมนุมทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ เมื่อมีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น และผู้สมัครรับเลือกตั้งฉวยโอกาสใช้เป็นเครื่องมือหาเสียง ทำการปลุกระดม กดดันทางฝ่ายทหารเรือซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างสูง
บล็อกตัวผู้ว่าฯ ต่อรองเงื่อนไขหนัก
    ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. นายพงศ์โพยม วาศภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยนายอำนวย สงวนนาม รองผู้ว่าฯ นายสมศักดิ์ แสนยานุภาพ นายอำเภอเมือง พล.ต.ต คงพล สุวรรณรักษ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตและ พ.ต.อ. ชลิต ถิ่นธานี ผกก. สภอ. เมือง ภูเก็ตและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งนอกเครื่องแบบและสายตรวจกว่า 20 นายเดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าเจรจากับชาวบ้านและญาติผู้เสียชีวิตในกรณีทีมีการปิดกั้นทำให้การจราจรกว่า 3 กิโลเมตรต้องเป็นอัมพาต ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาพักยังโรงแรมระดับ 5 ดาวจำนวน 5 โรงแรมซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าออกตามเส้นทางดังกล่าวได้
    แต่เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุปรากฎว่าคณะของผู้ว่าฯ ได้เกิดการปะทะคารมกับทางกลุ่มชาวบ้านและญาติผู้ตายซึ่งตั้งเต๊นท์รอการเจรจากว่า 500 คนบริเวณทางเข้ากองบัญชาการ แต่ก็ฝ่าฝูงชนเพื่อเข้าไปยังตึงกองบัญชาการสมทบกับ คณะของนาบทหาร โดยมี พล.ร.ท.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ. กองเรือและนายทหารชั้นผู้ใหญ่รอการสอบสวนผู้ต้องหาร่วมกัน ภายในห้องรับรอง ชั้นล่างโดยได้นำตัวแทนญาติผู้เสียชีวิตและตัวแทนชาวบ้านขึ้นมารับฟังการสอบสวนผู้ต้องสงสัย จนเวลาได้ลวงเลยไปกว่า 4 ชม. ซึ่งในเวลานั้นทางนายทหารพระธรรมนูญได้นำตัวผู้ต้องสงสัยทยอยกันเข้าไปยังห้องสอบสวนที่ละคน ซึ่งแต่ละฝ่ายไม่ว่าทางตำรวจและนายทหารต่างอยู่ในขั้นตึงเครียด เนื่องจากผู้ชุมนุมเสนอระยะเวลา 13.00 น. ของวันเดียวกันจะต้องรู้ผลและนำตัวคนร้ายมาให้ดู
    ทางด้านผู้เกี่ยวข้องในการสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัย 4 คนได้เปิดเผยว่าหลังจากนำตัวผู้ต้อสงสัยซึ่งเป็นทหารเรือ สังกัดกองบัญชาการ กองเรือภาคที่ 3 ภูเก็ตขึ้นมาสอบปากคำ ซึ่งทั้งหมดให้การเป็นเพียงผู้ร่วมขบวนการเท่านั้น แต่มือปืนที่ลั่นไกสังหารผู้ตายคือ จ่าโทวันชัย พงษ์สวัสดิ์ ซึ่งในเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารผู้ตายด้วยบันดาลโทสะ เนื่องจากบาดหมางกับผู้ตายมาก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ส่วนจ่าโทสมพร พันธ์พิทักษ์ ซึ่งได้นำตัวมาจากฐานทัพเรือพังงานั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพียงอดีตเคยถูกผู้ตายขับรถปาดหน้าและชกต่อยกันกับผู้ตาย ซึ่งก็ได้เคลียร์ปัญหาดังกล่าวไปหมดสิ้นแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด จึงได้ลงไปยังบริเวณหน้ากองบัญชาการ ซึ่งมีชาวบ้านและญาติผู้ตายรอฟังผลอยู่กว่า 500 คน เมื่อทางคณะผู้ว่าฯ ภูเก็ตพร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงไปถึง ได้มีชาวบ้านและญาติของผู้ตายที่เริ่มมีอารมณ์ที่ต้องรออยู่ช้านานได้ฮือเข้าใส่คณะ ทหารเรือรักษาการณ์บริเวณป้อมพร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 เตรียมสะกัดจึงทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นตามลำดับ พร้อมกับรุกคืบเข้าหา จนทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอยร้นขึ้นไปจนถึงตึกกองบัญชาการพร้อมกับมีการกล่าวยั่วยุและท้าทายให้ทหารยิง จนนายทหารผู้บังคับบัญชาต้องสั่งเก็บอาวุธปืนเอ็ม 16 จากนั้นผู้ว่าฯ ได้ออกมาเจรจา ซึ่งผู้ชุมนุมขอให้นำตัวผู้ต้องหามาให้ดูตัว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่เกรงจะมีการใช้ระบบประชาทัณฑ์ ชาวบ้านเริ่มด่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ "หลอกลวง" และยังไม่ได้จับผู้ต้องหาอย่างที่ได้พูดไว้
    นายพงษ์โพยม จึงได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.อ.เมือง ภูเก็ตแล้ว พร้อมกับเตรียมที่จะเดินทางกลับ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมยิ่งไม่พอใจหนักขึ้น จึงทำการล้อม
บล๊อกตัว ผู้ว่าฯ พร้อมคณะนายตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไม่ให้ออกจากกลุ่มม๊อบ โดยกระจายกันออกปิดกั้นไม่ให้รถยนต์ทุกคนผ่านเข้าและออกจากบริเวณหน้ากองบัญชาการ จึงทำให้ต้องมีการเจรจาต่อรองกันยืดเยื้อ
    แต่ในที่สุด เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ได้ยอมรับเงื่อนไขของนายพงษ์โพยม ผู้ว่าราการ ที่จะเดินทางไปดูหน้าผู้ต้องหาทั้ง 2 นายที่ สภ.อ. เมืองภูเก็ต แต่หลังจากที่ผู้ชุมนุมเดินเท้าออกมาจากสถานที่ชุมนุมเป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่ง ออกมาขัดขวาง นายพงษ์โพยม ผู้ว่าราชการ และ พ.ต.อ. ชลิต ผกก. สภ.อ. เมืองภูเก็ต ไม่ให้เดินทางมาที่ สภ.อ. เมืองภูเก็ตพร้อมกับตัวแทนผู้ชุมนุมบางส่วน โดยผู้ที่เข้าขัดขวางนั้นได้กล่าวยืนยันว่า ข้อเรียกร้องให้เป็นไปตามเดิม คือนำผู้ต้องหามาขอขมาศพ ซึ่งทำให้นายพงษ์โพยม วาศภูมิ มีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ได้ปิดถนนเพิ่มเติมอีกช่วงหนึ่ง พร้อมกับกักรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกทั้งหมด รวมทั้งรถนักท่องเที่ยว รถผู้ว่า ผกก. ผู้สื่อข่าว และประชาชนต่างๆ ไว้อีกชวงหนึ่ง เนื่องจากเส้นทางถนนศักดิเดช ไปยังแหลมพันวา หน้าจุดชุมนุมประท้วง เป็นเส้นทางเข้าออกทางเดียว จนส่งผลให้มีรถยนต์ติดอยู่เพิ่มขึ้นมากถึง 300 คันแล้ว
การเมืองเข้าแทรกม็อบยืดเยื้อต่ออีก
    ต่อมานายพงษ์โพยม วาศภูมิ ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ตและคณะได้แจ้งผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาที่ยิง
นายมาด๊าด หาทรัพย์ จำนวน 2 นาย ทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือได้ส่งตัวไปฝากขังที่ สภ.อ. เมืองภูเก็ต ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องส่งตัวแทนไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีการฝากขังผู้ต้องหาเอาไว้จริง แต่ผู้ชุมนุม กลับมีการเสนอข้อเรียกร้องเพิ่มเติมจำนวน 3 ข้อดังนี้ 1. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ สถานที่เกิดเหตุ ฝั่งตรงกันข้ามกับกองรักษาการณ์ กองเรือภาคที่ 3 ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ 2. ให้โยกย้าย พล.ร.ท. สถิรพันธ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการ กองเรือภาคที่ 3 ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง และ 3. ให้ย้ายกองบัญชาการกองเรือภาคที่ 3 ออกจากพื้นที่ หมู่ 8 บ้านแหลมพันวา ตำบลวิชิต อ. เมือง ภูเก็ต พร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่า จะไม่เลิกปิดก้นถนนศักดิเดชจนกว่า ทางการจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องทุกข้อ
    ในขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่นั้น ปรากฏว่ามีนักการเมืองท้องถิ่น และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จากพรรคการเมืองหลายพรรคพยายาม จะเข้ามาร่วมเจรจา โดยเฉพาะผู้สมัครพรรคชาติพัฒนา อย่างเช่น นายเรวุฒิ จินดาพล ผู้สมัครจากเขต 2 ก็เข้ามาวุ่นวายด้วย โดยได้พูดโน้มน้าวให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางให้รถยนต์ของประชาชน ข้าราชการ และนักท่องเที่ยวที่ไม่เกี่ยวข้อง่านไปมาได้ แต่ก็ไม่เป็นผล ต่างยืนยันตามข้อเรียกร้องเดิม
    นอกจากนั้นนายเรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่าตามที่กลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมต้องการให้นำผู้ต้องมาขอขมาศพนั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะให้คนชั่ว ๆ อย่างนั้นมาขอขมาศพ พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าผู้ต้องหามาในวันนี้เพื่อทำแผน หรือขอขมาศพ ก็ให้ประชาชนเตรียมเท้าไว้ให้พร้อม และทำเท้าให้โตๆ โดยนายเรวุฒิ ได้แสดงอาการยกเท้าขึ้นมาละใช้มือลูบ พร้อมกับพูดว่า ถ้ามาวันนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมด้วย หลังจากนายเรวุฒิ กล่าวจบ ก็มีเสียงโห่ร้อง และตบมือจากผู้ร่วมชุมนุม จากนั้นได้กล่าวขอตัวเดินทางไปหาเสียงที่อื่นตอ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขต 1 แต่ตนสมัครที่เขต 2 ก็ต้องขอฝากนายสำคัญ แสงไฟ ผู้สมัครในพรรคเดียวกันที่สมัครเขต 2 และขอฝากปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 21 ด้วย
    สำหรับนายพงษ์โพยม และคณะนั้นได้รับการปล่อย ตัวให้ออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมภายหลังได้ตกลงตามเงื่อนไขใหม่คือ 1. ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด 2. ให้ตั้งตัวแทนชาวบ้านเป็นกรรมการร่วมรับฟังการสอบสวน 3. ให้ถ่ายภาพคดีและทำแผนให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน 4. หากไม่สามารถหาผู้กระทำผิดได้ให้ย้ายกองบัญชาการกองเรือภาคที่ 3 ไปอยู่จังหวัดอื่น 5. ไม่ให้เอาผิดกับผู้ชุมนุมประท้วง 6. จะเปิดถนนให้สัญจรไปมาได้เต็มที่หลังจากการทำแผนเสร็จ 7. ขอค่าทำขวัญให้กับทางญาติผู้เสียชีวิตด้วย
    ภายหลังจากที่ ผู้ว่าฯ ได้เดินทางกลับไปแล้วก็มีนักการเมืองท้องถิ่น และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. คือ นายสำเริง ไชยศร นายมาโนช พันธ์ฉลาด และนายอำนวย คุ้มบ้าน รวมทั้ง นายสำคัญ แสงไฟ ผู้สมัครเขต 1 พรรคชาติพัฒนา ได้ฉวยโอกาสเปิดปราศรัยโจมตีทหารเรือที่ทำเกินกว่าเหตุจนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
    ส่วนนายสมาน การะเกต ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ความวุ่นวายของผู้ประท้วงที่สงบสลายตัวไปแล้ว กลับมาประท้วงใหม่อีกนั้น เป็นเพราะ นายสำคัญ แสงไฟ ผู้สมัคร ส.ส. ภูเก็ต พรรคชาติพัฒนาและกลุ่ม อบจ. ภูเก็ต ได้ปราศรัยผู้ฟังให้ชาวบ้านมาประท้วงกันอีก เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย สร้างความสับสนให้ตนมากเพราะรู้ๆ อยู่แล้วว่าทางตำรวจ, และผู้ว่าฯ ช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนผู้ประท้วงที่จะเปิดถนนศักดิเดชหลายจุดนั้น ตนได้ห้ามปรามแล้วหากทางฝ่ายบ้านเมืองเขาดำเนินการอะไรตาม
กฏหมาย จะกล่าวหาว่าตนไม่เตือนไม่ได้
ผู้ว่าฯ เปิดใจยอมรับเงื่อนไขว่ารับได้
    ต่อมาวันรุ่งขึ้นที่ 14 ธ.ค. 43 นายพงษ์โพยม ผู้ว่าฯ ภูเก็ตได้ให้สัมภาษณ์ในระหว่างที่ไปร่วมฟังการสอบสวนผู้ต้องหาที่ สภ.อ.เมือง ภูเก็ต ว่า หลังจากที่ได้รับข้อเสนอจากทางกลุ่มชาวบ้านเมื่อวานนี้ ก็ยินดีที่จะรับไปดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าว เพราะส่วนใหญ่เป็นการเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้นำ ผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งคิดว่าทำได้และไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นห่วงของทางกองทัพเรือนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือก็ได้มีการสั่งการมาแล้วว่าจะต้องดำเนินกับผู้กระทำผิดโดยไม่ปกป้องไว้
    นายพงษ์โพยม ยังกล่าวว่า การดำเนินการของตนนั้นก็ทำไปตามเงื่อนไขที่ทำได้ ส่วนกรณีบานปลายของเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นคิดว่าเกิดมาจากความไม่เข้าใจของชาวบ้านบางคนเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองท้องถิ่น และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนบางคนได้ไปร่วมเปิดเวทีไฮท์ปาร์คกับทางกลุ่มชาวบ้านด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการหาเสียง
    "ในส่วนตัวของตนนั้นคิดว่าเมื่อมีการกระทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด และกรณีที่มีการปิดถนนก็เช่นเดียวกันถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น หากเป็นในช่วงปกติตนก็คงไม่ยอมแต่ในกรณีเช่นนี้ตนก็เห็นใจทางญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจึงต้องทำเช่นนี้ โดยตนได้เร่งในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งทำเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว และคงต้องเตรียมพร้อมในการที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย ซึ่งคิดว่าคงจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องให้เร็วที่สุด"
    นายพงษ์โพยม กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดกับโรงแรมซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณแหลมพันวา ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมพันวาบุรี โรงแรมเคปพันวา โรงแรมพันวาบีช และโรงแรมพันวาเบย์ ว่าขณะนี้ยังมีผลกระทบไม่มากนัก ซึ่งตนก็ต้องขอโทษทางผู้ประกอบการในบริเวณดังกล่าวด้วยที่ปล่อยให้มีการทำผิดกฏหมาย ซึ่งก็อยากให้เข้าใจด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เนื่องจากความโกรธแค้น เพราะมีการทำร้ายกันจนเสียชีวิต แต่ก็จะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว และจะทำการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างนิ่มนวลที่สุด

ผบ.กองเรือบอก เหตุเกิดเพราะอารมณ์

    ทางด้านพลเรือโทสถิรพันธ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการ กองเรือภาคที่ 3 กองเรือยุทธการ กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทางกองเรือภาคที่ 3 ได้ทำทุกอย่างแล้วตามกระบวนการยุติธรรมตามกฏหมายของบ้านเมือง โดยเราได้หาตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว และส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน และขณะเดียวกันเราได้ช่วยกันดูแลคนในพื้นที่ทั้งหมด เพระฉะนั้นหากจะถามว่าทหารเรือจะทำอะไรอีกหรือไม่ คิดว่าคงไม่ เพราะทุกอย่างได้ทำหมดแล้ว
    ส่วนการที่ทางกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องขอดูตัวผู้กระทำผิดซึ่งเป็นผู้ต้องหานั้น พลเรือโทสถิรพันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางบ้านเมืองที่จะต้องเป็นผู้จัดการไม่ใช่เรืองของทหารแล้ว ส่วนการทำความเข้าใจกับชาวบ้านเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในระยะยาวนั้น ผู้บัญชาการกองเรือภาคที่ 3 กองเรือยุทธการ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนกับกรณีที่เรามีลูกหลานหลายคนเป็นพี่น้องกัน ซึ่งก็ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง ซึ่งไม่น่ามีปัญหา เพราะปกติทางทหารเรือก็มีความสัมพันธ์อันดีกับชาวบ้านอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา ส่วนค่าธรรมขวัญก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ พลเรือโทสถิรพันธ์ กล่าวในที่สุด
    ด้านพล.ต.ท.คงพล สุวรรณรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่มีการชุมนุมปิดถนนต่อของผู้ชุมนุมประท้วง นั้นขณะยังไม่ได้ดำเนินการอะไรกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาซึ่งในเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ ทางผู้เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของทหารเรือ ทางจังหวัด และทางตำรวจ จะร่วมประชุมกับทางญาติของผุ้เสียชีวิต และทางหน่วยงานท้องถิ่นอีกครั้ง
    สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหานั้นขณะนี้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมอบให้ พ.ต.อ. พงษ์ศักดิ์ ณ นคร รองผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รับผิดชอบคดี และให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายและหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ ซึ่งคิดว่าการดำเนินคดีน่าจะมีความคืบหน้าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรซึ่งในการสืบสวนผู้ต้องหานั้นได้มีการแต่งตั้งตัวแทนมาร่วมฟังด้วยคิดว่าการสืบสวนมีความโปร่งใส่แน่นอน คิดว่าชาวบ้านมีความมั่นใจในการทำงานของตำรวจได้
    ส่วนการนำผู้ต้องหาไปทำแผนนั้นขณะนี้กำลังอยุ่ระหว่างการพิจารณาร่วมกันของจังหวัด ตำรวจ และกองเรือภาคว่าจะดำเนินการอย่างไร และในเวลา 16.00 น. นั้นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จะเดินทางมาร่วมประชุมหารือในการนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย

Home - เกี่ยวกับบริษัทฯ - ติดต่อกับบริษัทฯ - รายละเอียดโฆษณา - แผนผังเว็บไซต์

logoexnew2.gif (1304 bytes)
73/2 ถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร..66-76 214496-8 แฟกซ์.66-76 215933

สงวนลิขสิทธิ์  1998, 1999,2000. บริษัท เอกซ์เพรสดาต้า จำกัด.