|
|
|
ฉลอง
50 ปีเมืองไทย ออก อี-ไลฟ์
ให้ผลตอบแทนสูง
พร้อมจับสลากรางวัล
บริษัท
เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
เปิดแบบประกันชีวิตใหม่ภายใต้ชื่อ
e-life หรือ easy life by muangthai assurance ซึ่งแบ่งเป็น
e-life 1 และ e-life 2
โดยประกันทั้งสองแบบมีลักษณะเด่นคือ
มีเงินคืนระหว่างสัญญาทุก 3
ปีครั้งละ 10 % จำนวน 6 ครั้ง
และเมื่อครบรอบปีที่ 21
ก็รับเงินตามสัญญาประกันคืนเต็มจำนวน
100 % โดยแบบ e-life 2 จะได้คืน 120 %
ซึ่งระหว่างเริ่มต้นถึงปีที่ 21
นี้
หากมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นก็จะได้รับเงินสินไหมทดแทน
100 % ทันที
หลังจากได้รับเงินคืนเมื่อครบรอบปีที่
21 แล้ว
ต่อจากนั้นการคุ้มครองจะยังคงมีอยู่โดยที่ไม่ต้องมีการจ่ายเบี้ยประกันแต่อย่างใด
จนผู้เอาประกันอายุครบ 72
ปีก็จะได้รับเงินเท่ากับที่ได้รับเมื่อครบรอบปีที่
21 อีกครั้งหนึ่ง คือ 100 % สำหรับ e-life 1
และ 120 % สำหรับ e-life 2
หรือหากผู้เอาประกันเสียชีวิตระหว่างนั้นก็ได้รับการคุ้มครอง
100 % สำหรับ e-life 1 และ 120 % สำหรับ e-life 2
เช่นเดียวกัน
สำหรับการประกันแบบ e-life 1 และ e-life 2
นี้มีจุดเด่นคือ
เป็นการประกันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝากเบี้ยประกันในระยะเวลาที่จำกัด
แต่ได้รับความคุ้มครองยาวนาน
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับเงินคืนระหว่างสัญญาทุก
3 ปี จำนวนเท่า ๆ กัน
ซึ่งตลอดสัญญาผู้เอาประกันจะได้รับประโยชน์สูงสุดถึง
260 % สำหรับ e-life 1 และ 300 % สำหรับ e-life 2
ส่วนการจัดฉลองครบรอบ 50
ปีของบริษัทนั้น นายภูมิชาย
ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท
เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ
ได้เปิดดำเนินกิจการด้านประกันชีวิตมาตั้งแต่ปี
พ.ศ.2494 และจะครบรอบ 50 ปี ในปี 2544 นี้
บริษัทฯ
จึงได้จัดโครงการฉลองครบรอบ 50 ปี
ขึ้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้เอาประกันตระหนักถึงความสำคัญของกรมธรรม์ประกันชีวิต
การชำระเบี้ยประกัน
ต่ออายุกรมธรรม์เพื่อรักษาสิทธิต่าง
ๆ ตามกรมธรรม์
ประการสำคัญเพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนแก่ผู้เอาประกันที่มีอุปการะคุณต่อบริษัท
ที่ได้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ประกอบกับเป็นการให้ตัวแทนของบริษัทฯ
ได้บริการผู้เอาประกันได้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ให้เพิ่มมากขึ้น
ตลอดจนจะได้บริการหรับผู้สนใจใช้บริการประกันชีวิตของบริษัทฯ
รายใหม่ด้วย
รายละเอียดของโครงการฉลองครบรอบ
50 ปี นั้น เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2543 - 30
มิถุนายน 2544 โดยมีเงื่อนไขว่า
เมื่อผู้เอาประกันชำระเบี้ยประกันครบทุกๆ
1,500 บาท
ในแต่ละกรมธรรม์ของงวดการจับรางวัลผู้เอาประกันจะได้รับสลากเพื่อจับรางวัล
1 ใบ
ซึ่งคอมพิวเตอร์จะทำการออกสลากให้อัตโนมัติเมื่อลูกค้าชำระเงิน
(ตามวันที่ที่ออกใบเสร็จรับเงินฉบับจริง)
และสลากจะถูกรวบรวมไว้ที่บริษัทฯ
เพื่อชิงรางวัล
สร้อยคอทองคำหนัก 1บาท จำนวน 150
รางวัล มูลค่า 900,000 บาท
และอาคารชุดพักอาศัยเมืองไทย-ภัทรคอมเพล็กซ์
1 ห้อง เนื้อที่ 87 ตารางเมตร ราคา
3,500,000 บาท
รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้น 4,400,000
บาท
การจับรางวัล แบ่งออกเป็น 3
ครั้งคือ ครั้งที่ 1ระหว่างวันที่
1 เมษายน 2543 - 31 สิงหาคม 2543
มีรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 50
รางวัล
ทำการจับรางวัลไปเมื่อวันเสาร์ที่
23 กันยายน 2543 ณ โรงแรม เจ.บี. โฮเต็ล อ.หาดใหญ่
จ.สงขลา
ครั้งที่ 2 ระหว่าง 1 กันยายน 2543 - 31
มกราคม 2544
มีรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 50
รางวัล
จะทำการจับรางวัลในวันเสาร์ที่ 24
กุมภาพันธ์ 2544 ณ โรงแรมพรพิงค์
ทาวเวอร์ จ.เชียงใหม่
และครั้งที่ 3
เป็นการชำระเงินระหว่างวันที่ 1
กุมภาพันธ์ 2544 - 30 มิถุนายน 2544
มีรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 50
รางวัล
จับรางวัลในวันพฤหัสบดีที่ 26
กรกฎาคม 2544 ณ บริษัท
เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
สำนักงานกลาง ON-LINE นครปฐม เลขที่ 1158/4
ถ.เพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม
พร้อมจับรางวัลใหญ่ โดยบริษัทฯ
จะจับรางวัลจากสลากทั้งหมดตั้งแต่
1 เมษายน 2543 - 30 มิถุนายน 2544 รวมทั้ง 3
ครั้ง และจะจัดพิธีการมอบ
รางวัลใหญ่อย่างเป็นทาง
การในวันที่ 14 สิงหาคม 2544
โดยจะทำการประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลที่สำนักงานใหญ่และสำนักงานภูมิภาค
ครั้งที่ 1 วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2543
ครั้งที่ 2 วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2544
และครั้งที่ 3 ในวันจันทร์ที่ 7
สิงหาคม 2544
ท่านที่สนใจในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต
จำกัด สำนักงานสาขาภูเก็ต เลขที่
164/5 ถนนเทพกระษัตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง
จ.ภูเก็ต โทร.(076) 214615 และ 224487-8
|