จ.ภูเก็ตเรียกร้องเจ้า ของขุมเหมืองตั้งชมรม-สมาคมเพื่อสะดวกวาง แผนการใช้น้ำนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวหลังเป็นประธานการ ประชุมคณะกรรมการ บริหารแหล่งน้ำอุปโภค บริโภคในจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2544ว่า เนื่องจากมีหนังสือสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย เสนอแนะให้จังหวัดพิจารณาปรับปรุงให้มีคณะกรรม การ เพื่อเป็นองค์กรกลางในการประสานงาน และจัด ทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัด รวมทั้งการสำรวจ ข้อมูลการจัดทำทะเบียน การจัดทำแผนที่และการจัด ระบบข้อมูลแหล่งน้ำให้เป็นปัจจุบัน ในลักษณะภาค รวมของจังหวัดเพื่อสะดวกในการดำเนินการ และแก้ไข ปัญหาเรื่องของความซ้ำซ้อนของพื้นที่ การดำเนินการ ให้ความรู้ความเข้าใจ ควรจะมีการฝึกอบรมให้ความรู้ เป็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการพัฒนา แหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคในจังหวัดภูเก็ต ประกอบ ด้วย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี กรมการ เร่งรัดพัฒนาชนบท และกรมโยธาธิการ กำหนดแผน งานดำเนินการของแต่ละหน่วยงานมาเพื่อที่จะนำ แผนงานทั้งหมดมาปรับรวมให้สามารถพัฒนาร่วมกัน ได้ ซึ่งในอนาคตน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะ สามารถดื่มได้เลย แต่จะต้องมีการประสานร่วมกันของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้แผนพัฒนาของกิจกรรม ของแต่ละหน่วยงานสามารถพัฒนาต่อเนื่องกันได้ และ สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งในเรื่องของกิจกรรม พื้นที่ และเรื่องของงบประมาณและในอนาคตจะสามารถ พัฒนาเป็นโครงการร่วมกันได้ ถ้าสามารถวางแผนได้ เช่นนั้นนับว่าเป็นการวางแผนที่ดี และในอนาคตจะ สามารถใช้น้ำจากทุกแหล่งมาผลิตเป็นน้ำประปาได้ นายวงศ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาน้ำอุปโภค บริโภคในจังหวัดภูเก็ต นั้นส่วนใหญ่จะมีปัญหาในช่วง หน้าแล้ง เนื่องจากการจัดการเรื่องทรัพยากรน้ำยังไม่ ดีเท่าที่ควร แต่จากการฟังแผนการดำเนินงานเกี่ยวกับ เรื่องน้ำแล้วคิดว่าปัญหาเรื่องน้ำภูเก็ตไม่น่าจะมี ปัญหาอะไร และขณะนี้ทางกรมชลประทานก็มีแผนที่ จะผันน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลลงสู่ทะเล กลับ เข้ามาสู่เขื่อนบางวาด และแผนที่จะพัฒนาเขื่อนอีก 2-3 แห่ง เพื่อกักเก็บน้ำดิบเพิ่มมากขึ้น และในส่วนของ รพช.เองก็มีการพัฒนาแหล่งน้ำผิวดินเพิ่มขึ้น อีกประมาณ 4-5 แห่ง ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ไม่ต่ำ กว่า 10 ปี แต่ระหว่างนี้ก็คงจะประมาทไม่ได้คงจะต้อง มีการพัฒนาแหล่งต่างๆ ไปด้วย สำหรับปริมาณการใช้ น้ำในจังหวัดภูเก็ตนั้นตกเดือนละประมาณ 2 แสนลูกบาศก์เมตร คิดว่าสามารถให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นก็ตาม สำหรับการใช้น้ำจากขุมเหมืองของเอกชนนั้นคิดว่า สามารถดำเนินการซื้อได้ และในอนาคตคิดว่าเจ้าของ ขุมเหมืองต่างน่าจะมีการจัดตั้งเป็นชมรม หรือสมาคม ขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของเจ้าของขุมเหมือง และเพื่อ สะดวกกับทางราชการเพราะสามารถติดต่อซื้อน้ำโดย ผ่านทางสมาคม หรือชมรมได้เลย เพราะปัจจุบันนี้ขุม เหมืองต่างๆ ในภูเก็ตที่มีศักยภาพมีอยู่กระจัดกระจาย การติดต่อทำได้ลำบาก คิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ทาง เจ้าของขุมเหมืองจะจัดตั้งเป็นชมรมหรือสมาคมขึ้นมา เพื่อความสะดวกในการดำเนินการวางแผนการใช้น้ำ