สถิติถอยรถเครื่องใหม่พุ่ง
ขนส่งว่าเพราะไม่มีรถเมล์ แนวโน้มการขอจดทะเบียนรถใหม่ของภูเก็ตสูงโดยเฉพาะรถจักรยาน
ยนต์
เหตุเพราะไม่มีรถเมล์ให้บริการ
โดยทาง อบจ.ภูเก็ต
ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเส้นทางรถเมล์
2
สายในเขตเมืองขอเลื่อนการให้บริการออกไปอีก
180 วัน
เพราะความไม่พร้อมในการจัดหารถ
นายอุทัย ศรีวิลัย
ขนส่งจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยถึงการขอจดทะเบียนรถใหม่ประเภทต่างๆ
ของจังหวัดภูเก็ตว่ามีแนว
โน้มเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดยเมื่อปี 2543
นั้นมีการขอจดทะเบียนรถยนต์
นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
หรือรถเก๋ง จำนวน 1,356 คัน
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
หรือรถสองแถวมีเบาะนั่งมีหลังคา
จำนวน 110 คัน
รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล
หรือรถกระบะ จำนวน 1,433 คัน
รถจักรยานยนต์ จำนวน 10,930 คัน
ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2544
ตั้งแต่เดือนมกราคม
จนถึงเดือนมิถุนายน
มีการขอจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน
7 คน แล้วจำนวน 1,096 คัน
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
จำนวน 51 คัน
รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จำนวน 829 คน
และรถจักรยานยนต์ จำนวน 6,849
คัน"เมื่อพิจารณาตัวเลขที่เหลืออีก
6 เดือนหลัง
คิดว่าจะมีแนวโน้มการขอจดทะเบียนรถใหม่
คงไม่ต่ำ กว่าในปี 2543
โดยเฉพาะในส่วนของรถจักรยานยนต์
ทั้งนี้เนื่องจากรถจักรยานยนต์นั้นใช้ง่ายสะดวกและ
คล่องตัว
นอกจากนั้นยังรวมถึงการที่ในเขตตัวเมือง
ภูเก็ตยังไม่มีรถโดยสารสาธารณะหรือรถเมล์ให้บริการ"
นายอุทัย ยังกล่าวด้วยว่า
สำหรับผู้รับสัมปทาน
การให้บริการรถเมล์ในภูเก็ตขณะนี้
คือ องค์การ บริหารส่วนจังหวัด
(อบจ.) ภูเก็ต โดยจะต้องเริ่มให้
บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
หลังจาก
การได้รับสัมปทานเมื่อเดือนตุลาคม
2543 แต่ทาง อบจ.ภูเก็ต
ได้ยื่นหนังสือขอยืดระยะเวลาการให้บริการ
ออกไปอีก 180 วัน
โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถจัดหา
รถที่จะมาให้บริการได้
เพราะรถที่จะนำมาใช้ให้
บริการนั้นจะต้องเป็นรถที่ปลอดมลพิษ
เนื่องจาก
ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว
และถนนก็แคบมีบ้านเรือน
ที่ตั้งอยู่ติดกัน
จึงต้องหารถที่มีความเหมาะสมกับ
สภาพพื้นที่
อย่างไรก็ตามนายอุทัยยังกล่าวด้วยว่า
หากเลยกำหนด 180 วันตามที่ทาง
อบจ.ขอยืดระยะเวลาออก
ไปแล้วยังไม่สามารถดำเนินการได้อีก
ก็จะต้องนำเรื่อง
เสนอให้กับทางคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทาง
บกได้ให้ความเห็นชอบให้
อบจ.เป็นผู้จัดให้มีรถโดยสาร
ประจำทางหมวด 1 หรือรถเมล์ใน 2
เส้นทางในเขต อำเภอเมืองภูเก็ต
โดยเส้นทางแรกเริ่มจากสถานี
อนามัยแหลมชั่นไปสิ้นสุดที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส
และในเส้นทางนี้มีการขอให้
ขยายไปจนถึงห้างสรรพ
สินค้าบิ๊กซี
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
แต่คงต้อง
ให้ทางคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกจังหวัด
ภูเก็ตเป็นผู้พิจารณา
กับอีกเส้นทางหนึ่งเริ่มจาก
สถาบันราชภัฏภูเก็ต
และไปสิ้นสุดที่วิทยาลัย-
อาชีวศึกษาภูเก็ต
ส่วนปัญหามวลชนจากกลุ่มมอเตอร์ไซด์รับจ้าง
หรือรถตุ๊กตุ๊กนั้น นายอุทัย
กล่าวว่าคงไม่มีปัญหา เพราะทาง
อบจ.ได้บอกว่าได้ไปทำความเข้าใจและชี้
แจงให้กลุ่มมวลชนเหล่านั้นได้รับทราบแล้วว่ากลุ่ม
ผู้บริการรถเมล์นั้นจะเป็นคนละกลุ่มกับของเขา
ซึ่ง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
และการมีรถเมล์ก็จะอำนวย
ความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้น
โดยเฉพาะใน
ส่วนของนักเรียนนักศึกษา |