ททท.ภูเก็ต เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมาเพิ่มถึง 12% ส่วนในปีนี้ คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่วนเหตุที่ผู้ประกอบการออกมาบอกว่า นักท่องเที่ยวลดไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีการขยายการก่อสร้างห้อง พักเพิ่มขึ้นกว่า 6,000 ห้อง ส่งผลให้เกิดกระจายนักท่องเที่ยวไปยังโรง-ใหม่ ส่วนตลาดหลักยังคงเป็นกลุ่มเดิม นายอานุภาพ ธีรรัฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคใต้เขต 4 กล่าวถึงสถานการณ์ การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตทั่วไปอยู่ในขั้นที่ใช้ได้ เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวอาจลดน้อยลงซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาแต่ ททท.ยืนยันได้ว่าในปีนี้คงจะทำเป้าเพิ่มขึ้นในอัตรา 10% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับปีที่ผ่านมาขณะนี้ได้ตัวเลขที่เป็นทางการ แล้วปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาทั้งหมดมี อัตราเพิ่มขึ้น 12% ประมาณ 3,400,000 กว่าคน ทำ รายได้ให้กับจังหวัดภูเก็ตประมาณ 64,000 กว่าล้าน บาท นายอานุภาพกล่าวและว่า หากไปคุยกับทางผู้ ประกอบการโรงแรมนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบ ว่าอัตราการเข้าพักของแต่ละโรงแรมจะลดลง ซึ่งสาเหตุ หลักที่อาจจะเป็นไปได้ คือ ภายในระยะเวลา 2 ปีที่ ผ่านมานั้นมีโรงแรมเพิ่มขึ้นถึง 150 แห่ง มีห้องพัก เพิ่มขึ้นถึง 6,500 ห้อง เนื่องจากอัตราห้องพักที่เพิ่ม ขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมาก อาจจะเป็นส่วน ที่ทำให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมเดิมมีอัตราที่ลดลง เนื่องจากนักท่องเที่ยวกระจายไปยังโรงแรมอื่นๆ ประ กอบกับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ไม่ว่าจะเป็นเขาหลัก จ.พังงา และเกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งขณะนี้ได้รับความ นิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ส่งผลให้นักท่อง เที่ยวกระจายตัวไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย แต่ทาง ททท.ก็ยังยืนยันว่าอัตราของนักท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้น นายอานุภาพ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมใน การรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ว่า คงจะเป็นในเรื่องของการพัฒนาบุคลากรในการที่จะ รองรับ เช่น ททท. มีโครงการจัดอบรมภาษาอังกฤษ ให้กับแคดดี้ตามสนามกอลืฟต่างๆ ประมาณ 200 คน เพราะขณะนี้เราใช้กอล์ฟเป็นกีฬาในการดึงดูดนักท่อง เที่ยวเข้ามาเล่นกอล์ฟหรือเป็นกอล์ฟพาราไดส์ โดย ปัจจุบันภูเก็ตมีสนามกอล์ฟทั้งสิ้น 4 สนาม และได้รับ ความนิยมสูงมากจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมความ พร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ โดยร่วมกับ ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ซึ่ง นับเป็นโครงการหนึ่งที่จะพัฒนาบุคลากรทางด้านการ ท่องเที่ยวได้ ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวหลักของภูเก็ตนั้น นายอานุภาพกล่าวว่า ตลอดทั้งปีจากตัวเลขจำนวน นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประมาณ 3 ล้านกว่า คนนั้น เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 9 แสนคน ส่วนอีก ประมาณ 2 ล้านคนเศษ เป็นชาวต่างชาติมีทั้งหมด ประมาณกว่า 50 สัญชาติ หากจะถามถึงนักท่องเที่ยว หลักแล้วนั้นหากดูทั้งปีแล้วคงไม่ใช่เป็นชาวยุโรป แต่จะ เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอันดับแรก รองลงมาจะ เป็นนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเป็นจำนวน 3 แสนกว่าคน นอกจากนั้นก็จะมีจำนวน 2 แสนกว่าคน เช่น อังกฤษ เยอรมัน เป็นต้น ซึ่งหากจะรวมตลาดยุโรปทั้งหมดก็คง ไม่ถึง 1 ล้านคน เพราะฉะนั้นตลาดหลักจริงๆ แล้วคง เป็นตลาดใกล้บ้าน เพียงแต่ในฤดูกาลท่องเที่ยวของ ภูเก็ตในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือน เมษายน ตลาดหลักคือตลาดยุโรป เนื่องจากทางยุโรป ค่อนข้างหนาวเย็น จึงหนีหนาวมาเที่ยวบ้านเรา "ขณะนี้ตลาดที่น่าสนใจ คือ ตลาดใหม่ๆ เช่น จีน ซึ่งมีพลเมืองถึงหนึ่งพันสองร้อยล้านคน มีผู้ที่มีกำลังซื้อ ถึง 3% หรือ 30 กว่าล้านคน และขณะนี้จีนก็ให้ความ สำคัญที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งในช่วงนี้หากสอบถามไปยังโรงแรมในเมือง จะพบว่ามีอัตราการเข้าพักค่อนข้างสูง โดยนักท่อง เที่ยวที่เข้าพักจะมาจากจีน ไต้หวัน เป็นต้น ที่ผ่านมาก็ ได้มีการพูดถึงตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งใช้เวลาในการเดิน ทางเพียง 4-5 ชั่วโมง เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยตลาดเหล่านี้เป็นตลาดที่ เดินทางเข้ามาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และควรจะให้ความ สนใจเพิ่มมากขึ้น โดยหลายๆ โรงแรมที่ทำตลาดยุโรป อยู่นั้นอยากจะแนะนำตลาดเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยมาเสริม ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว จะทำให้อัตราการเข้าพัก ตลอดทั้งปีเพิ่มสูงขึ้น" ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเกิดโรคต่างๆ เช่น ฉี่หนู อหิวาตกโรค หรือไข้เลือดออก นั้น นาย อานุภาพ กล่าวว่า มีการสอบถามเข้ามาเช่นกัน จึง อยากเรียนให้ทราบว่าเรื่องโรคต่างๆ เหล่านี้นั้นอยู่ใน การควบคุมของสาธารณสุขแล้ว ไม่เป็นที่น่าหวาดกลัว หรือวิตกแต่อย่างใด และก็ไม่ใช่โรคระบาด ซึ่งจะก่อ ให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามปกติ ส่วนเรื่อง ของควันที่เกิดขึ้นที่อินโดนีเซียขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ทาง ภูเก็ตยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่มีการบอก ว่ามีการยกเลิกห้องพักนั้นขณะนี้ทราบว่าเป็นเพียงข่าว เท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันว่ามีการยกเลิกจริง มีเพียงการสอบถามถึงสถานการณ์ของโรคต่างๆ เท่านั้น และขอยืนยันว่าไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการท่องเที่ยว แต่ประการใด